ในแวดวงการตลาดเชิงดิจิทัล (Digital Marketing) ยุคปัจจุบันมีหนึ่งในเครื่องมือสำคัญอันดับต้นๆ นั่นก็คือการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เครื่องมือที่มีคุณสมบัติหลากหลาย ทั้งเรื่องงบประมาณที่สมเหตุสมผล เมื่อพัฒนาอันดับการค้นหา (Search Rank) ได้แล้วก็สามารถมั่นใจได้เลยว่าอันดับจะยังคงติดอยู่ในหน้าค้นหานั้นสักพักใหญ่ๆ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้ประกอบการในธุรกิจเกิดใหม่ (Start up) หรือธุรกิจที่ดำเนินกิจการมานานพอสมควรจะหันมาพึ่งผู้ที่รับทำ SEO กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่รับหน้าที่ดูแลให้บริการ พัฒนาอันดับการค้นหาหน้าเว็บไซต์ของแบรนด์ลูกค้าผ่านการค้นหาด้วยคำสำคัญ (Keyword) แต่ทั้งนี้การตัดสินใจเลือกหรือคัดกรองผู้เชี่ยวชาญที่รับทำ SEO นั้นมีหลักการหรือข้อสังเกตอะไรที่ควรทราบบ้าง วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ มาแชร์กัน
เซ็นสัญญาตกลงอย่างเป็นรูปธรรม
เพื่อความสบายใจก่อนเริ่มงานกันทั้งสองฝ่าย ผู้ว่าจ้างเองควรประเมินและรับทราบโดยคร่าวๆ ก่อนตัดสินใจเลือกผู้ที่รับทำ SEO คือต้องมีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นรูปธรรมและชัดเจน โดยในสัญญาจะต้องระบุเงื่อนไขการทำงานที่เป็นไปอย่างโปร่งใส มีความครอบคลุมมากเพียงพอ เนื้อความในสัญญาต้องไม่กำกวม สืบเนื่องจากขั้นตอนการเซ็นสัญญานี้แล้ว หากเป็นไปได้แนะนำให้ผู้ว่าจ้างตรวจสอบประวัติภูมิหลัง (Background) ของผู้ที่รับทำ SEO ให้ชัดเจนว่ามีความเป็นมาอย่างไร เคยมีปัญหากับลูกค้าเจ้าก่อนๆ หรือไม่ อย่างไร ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนการลงทุนว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาพัฒนาอันดับหน้าเว็บไซต์แบรนด์คุณให้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ทำงานอย่างเป็นลำดับขั้นตอน
หากคุณคือเจ้าของกิจการที่กำลังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจเลือกผู้ที่รับทำ SEO แล้วล่ะก็ แนะนำให้สอบถามข้อมูลหรือขั้นตอนการทำงานของผู้ให้บริการเจ้านั้นๆ ว่ามีลำดับการทำงานอย่างไร สามารถตอบโจทย์ความต้องการของเราซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างหรือไม่ อย่างไร อีกทั้งตัวผู้ที่รับทำ SEO เองมีความรู้และความเข้าใจความเป็นมาของแบรนด์ลูกค้ามากน้อยแค่ไหน หลังนั้นในลำดับถัดมาจึงตามมาด้วยแผนการทำงานหรือลำดับขั้นที่เป็นระบบระเบียบ เมื่อเสร็จทุกขั้นตอนการทำงานแล้วในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่รับทำ SEO แก่ลูกค้าจะต้องมาพร้อมกับผลลัพธ์การทำงาน ว่าง่ายๆ คือรายงาน Optimize โดยคร่าวๆ ให้ลูกค้าได้รับทราบ และจะดีมากถ้าหากผู้เชี่ยวชาญมาพร้อมกับแผนการดำเนินงานในลำดับถัดไป หลังจากรายงานผลการทำงานให้ลูกค้าทราบเรียบร้อยแล้ว
จากข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเลือกหรือว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญที่รับทำ SEO อีกหนึ่งสิ่งที่แนะนำให้ผู้ว่าจ้างตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกผู้ที่รับทำ SEO เลยนั่นก็คือผู้ว่าจ้างมีสำนักงานตั้งอยู่เป็นหลักแหล่งหรือไม่ อย่างไร มีการจดทะเบียนเป็นรูปแบบบริษัทที่ถูกต้องหรือไม่ เพื่อความรอบคอบก่อนตัดสินใจว่าจ้าง และเผื่อไว้ในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นในระหว่างการดำเนินงาน ซึ่งผู้ว่าจ้างจะต้องสามารถติดต่อบริษัทผู้รับจ้างได้ตลอด ในกรณีที่เกิดปัญหาเร่งด่วนที่จำเป็นต้องแก้ในเวลานั้นจะได้สามารถดำเนินการได้ทันเวลา
