แนะนำทริคสวยประหยัดตลอดปี ง่ายๆโดยการตั้งงบซื้อเครื่องสำอาง

สวยได้เต็มร้อยด้วยงบประมาณจำกัด ใครจะหาว่าเราประหยัด อย่าได้แคร์ ก็ที่สวยและรวยมากอย่างตอนนี้ก็เพราะรู้จักใช้เงินนี่แหละ คนจะสวยนั้นสิ่งเดียวที่ทุ่มคือความหมั่นเพียรและเอาใจใส่ ฉะนั้น จ่ายมากกว่าไม่ได้แปลว่าจะสวยมากกว่านะจ๊ะ

การซื้อเครื่องสำอางของสาว ๆ แต่ละครั้ง น้อยคนที่จะจดไปก่อนว่าต้องการอะไร ชิ้นไหนบ้าง และแม้จะตั้งใจไปซื้อเพียงอย่างเดียวก็ไม่วายได้อย่างอื่นติดมือมาด้วย และส่วนมากก็ไม่ได้ใช้ของชิ้นนั้นเสียเท่าไหร่ ทางออกง่าย ๆ ของเรื่องนี้นอกจากต้องตั้งสติก่อนสตาร์ทแล้ว ยังมีทริคง่าย ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อเงินในกระเป๋าของคุณเอง

Beauty Plan

ขอแนะนำการ “ตั้งงบช้อปเครื่องสำอางไว้เดือนละ 1,000 บาท” สาว ๆ ที่ใช้แป้งตลับละสองพันอยู่ก็อาจจะร้องกรี๊ดกับวิธีนี้ แต่ถ้าเธอมีแพลนจะต้องเก็บเงินไว้ทำสิ่งอื่น เราขอยืนยันว่าพันเดียวเอาอยู่ และต่อไปนี้เป็น Shopping Plan ง่าย ๆ ที่จะช่วยจัดการเรื่องการซื้อเครื่องสำอางให้พอใช้พอสวย

1. มกราคม (January)

ต้นปีอย่างนี้เป็นช่วงที่อากาศแห่งและหนาวเล็กน้อย มองหาสกินแคร์ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื่น ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีเอสเซนส์ที่ใช้เพียงไม่กี่หยดแล้วนำมาตบที่หน้า ก็ทำให้ผิวไม่แห้งได้ แล้วข้ามไปที่ครีมกันแดดหรือเบสที่ผสมสารกันแดดเลยก็ยังได้ ซึ่งสองอย่างนี้ก็ราคาอยู่ที่ประมาณชิ้นละ 500 บาท อายุใช้งานก็ประมาณ 3-4 เดือน เลยทีเดียว

2. กุมภาพันธ์ (February)

เดือนแห่งความรักอย่างนี้ สกินแคร์ยังมีใช้อยู่ ตอนนี้เทรนด์โชว์ผิวกำลังอิน ไม่จำเป็นต้องลงรองพื้นให้หนาหรอกนะ ใช้แปรงกับแป้งผสมรองพื้นก็พอแล้ว ตลับละ 300-400 บาท แต่เนียนเวอร์มีถมไป ยังเหลือเงินให้ซื้อทินต์ที่ใช้ได้ทั้งแก้มและปากกับอายไลน์เนอร์อีกซักแห่งก็ยังได้

3. มีนาคม (March)

เป็นเดือนที่ไม่มีวันหยุดเลยจ้ะ ทำงานหน้าเครียดจนลืมสิ่งสำคัญคือการล้างหน้า แต่อากาศยังไม่ร้อนมาก ยังดีที่ไม่ต้องพะวงเรื่องความมันมากนัก การทำความสะอาดหลายขั้นตอนเกินไปมีแต่จะทำให้หน้าแห้งและมีปัญหาแพ้ง่ายตามมาในที่สุด มองหาเคลนเซอร์ที่ล้างเครื่องสำอางและทำความสะอาดได้ในขั้นตอนเดียว อุต๊ะ ! ยังเหลือเงินไว้ซื้อมาส์กอีกหน้าด้วยล่ะ

4. เมษายน (April)

Welcome Summer จ้ะสาว ๆ สงกรานต์งานสวยมาอีกแล้ว แต่ต้องสวยแบบทนน้ำทนแดดด้วยนะ มาสคาร่าที่ไม่กันน้ำอันตรายต่อความสวยนักเชียว ซื้อไว้สักด้ามใช้ได้ตลอดหน้าร้อน และที่ขาดไม่ได้คือโลชั่นป้องกันแดด หาแบบที่ช่วยบำรุงผิวด้วยยิ่งคุ้ม

5. พฤษภาคม (May)

ผ่านเทศกาลกรำแดดกันมาแล้ว ได้เวลาซื้อสครับซักกระปุกซึ่งก็มีหลากหลายราคา ยิ่งพวกผลิตภัณฑ์พื้นบ้านใช้ดีไม่หยอกเลยนะเธอ หรือถ้าจะให้คุ้มกว่า นำน้ำตาลทรายแดงผสมกับสครับที่ซื้อก็สามารถใช้ต่อได้อีกนาน เหลือเงินไปซื้อลิปสีใหม่ได้อีก และอย่าลืมเลือกที่ใช้บำรุงปากได้ด้วยนะ

6. มิถุนายน (June)

SOS ครีมบำรุงหน้าหมดซะแล้ว อยากได้ไวเทนนิ่งดี ๆ แต่ราคาไม่แพง และไม่เสี่ยงต่อสารปรอท ลองมองหาอะไรที่มาจากสารสกัดธรรมชาติ พวกผลิตภัณฑ์ตามร้านออร์แกนิกส์หรือร้านขายยา แล้วเธอจะได้ครีมบำรุงในราคาที่ไม่แพง และไหน ๆ ก็เข้าร้านขายยาแล้วซื้อครีมแต้มสิวมาติดบ้านไว้ก็ยังไม่เกินงบ

7. กรกฎาคม (July)

เทรนด์ความสวยแบบนางเอกเกาหลียังไม่ตกไปง่าย ๆ ถ้าอยากได้ลุคดิวอี้ การซื้อผงพิกเมนต์ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะนำมาแต่งได้หลายจุด ทั้งตา แก้ม จุดไฮไลท์ และอีกอย่างคือพาเลตต์แต่งตาสีน้ำตาล เพราะใช้บ่อย ใช้ได้ทุกโอกาส และใช้ยังไงก็หมด จึงคุ้มค่าแก่การซื้อที่สุดแล้ว

8. สิงหาคม (August)

ในช่วงวันแม่มักจะมีโปรโมชั่น 1 แถม 1 เซ็ตจับคู่คุ้ม ๆ มันก็ดีนะที่เราได้แชร์เครื่องสำอางกับคุณแม่ เพราะมีหลายอย่างที่ใช้ร่วมกันได้ อย่างครีมทาตัวครีมกันแดด บลัชออน ผลิตภัณฑ์บำรุงผม แฮนด์ครีม หรือจะซื้อของที่ใช้ได้อเนกประสงค์อย่างเบบี้ออยล์ที่ใช้ได้ทั้งผม มือ และส่วนข้อศอกที่ด้าน

9. กันยายน (September)

งานสัมมนา เอาท์ติ้ง ไม่ว่างานไหนมาแน่นมากช่วงนี้ ไม่ค่อยมีเวลาทำสวยซักเท่าไหร่ แต่กลับต้องเจอคนเยอะอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ปรับผิวให้ดูดีได้เร็วที่สุด คือ BB และ CC Cream และยังได้คุณสมบัติจากการบำรุงด้วย

10. ตุลาคม (October)

อากาศยังชื้น ฝนยังตก ตัวเหนียว ไม่อยากทาโลชั่นว่ามั้ย แต่ไม่ได้ ยังไงก็ต้องทา เดี๋ยวนี้เขามีโลชั่นแบบทาตอนอาบน้ำ ซึมซาบลงสู่ผิวไปเลย ก็เวิร์กอยู่นะแถมใช้ในปริมาณที่น้อยกว่าการทาโลชั่นปกติด้วย ส่วนอีกปัญหาในหน้าฝนคือเรื่องรูขุมขน จัดการให้เรียบตั้งแต่ขั้นตอนการล้างหน้าซะ

11. พฤศจิกายน (November)

หน้าหนาวมาเยือนเบา ๆ พร้อมความโรแมนติก กลิ่นหอม ๆ สามารถควบรวมกับโลชั่นขวดใหม่ไปได้เลยนะ จะซื้อแยกกันทำไม เก็บเงินไว้เที่ยวปีใหม่ดีกว่า แต่ช่วงนี้มีงานเซลล์อย่าลืมช้อปอย่างมีสติ อนุญาตให้ซื้อลิปสติกสีสวย ๆ ที่ลดราคาสักแห่งแล้วกัน

12. ธันวาคม (December)

ตระเวนออกงานปาร์ตี้ก็ต้องมีไอเทมเก๋ ๆ ไว้เล่นบ้าง แต่ท่องไว้เสมอว่าต้องไม่แพง อย่างสติ๊กเกอร์ติดเล็บ ชอล์กเปลี่ยนสีผม หรืออายไลน์เนอร์กลิตเตอร์ราคาไม่แพง ของพวกนี้ไม่ต้องซื้อไซส์ใหญ่เพราะไม่ได้ใช้บ่อย เน้นจับของเก่าที่ไม่ค่อยได้ใช้มาประยุกต์ใช้จะดีกว่าเนอะ

ที่มา: นิตยาสาร Lisa