ได้ลองกันหรือยังกับ Micellar Water นวัตกรรมเช็ดเครื่องสำอางล่าสุดที่เขาบอกกันว่าพลังทำความสะอาดแบบอ่อนโยนที่สามารถเช็ดคราบเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด อะไรอย่างนี้ขอบอกว่าเราชอบมากเพราะต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ใช้เครื่องสำอางเยอะมากกกจริงๆ ไม่เสียเวลา! เดินออกไปที่เชลฟ์คว้าเอา Micellar Water มา 5 ยี่ห้อที่เราคิดว่าน่าจะเป็นตัวท็อปในท้องตลาดแล้วออกมาเป็นรีวิวนี้ เผื่อใครอยากจะไปขอพลัง Micellarให้ช่วยทำความสะอาดหน้าบ้าง
เราเลือกมาแล้วกับ 5 ที่เช็ดเครื่องสำอางที่เป็น Micellar Water ทั้งหมด ประกอบด้วย (ไล่จากซ้ายไปขวา)
• Nivea White Oil Control Make Up Clear ซึ่งขวดนี้เขาบอกว่าเป็น Micellar Water ที่ประกอบด้วย 0% แอลกอฮอล์ และก็มี Oxygen Boost ที่ช่วยเติมออกซิเจนให้กับผิว แถมเป็นสูตรช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า ให้ผิวดูกระชับ เช็ดได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องความมันหรือสิว
• Neutrogena Deep Clean Make Up Cleansing Water ซึ่งเป็นสูตร Oil Free และข้างขวดบอกว่าได้รับการทดสอบว่าไม่แพ้หรือระคายเคืองต่อผิวหน้า
• Smooth E Extra Sensitive Make Up Cleansing Waterสำหรับขวดนี้ผ่าน Dermatologist Tested เช่นกัน ก็มีค่า pH ที่บาลานซ์ ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีส่วนผสมของสบู่ และผ่านการทดสอบว่าไม่ระคายเคืองต่อตา
• Bifesta Sebum Cleansing Lotionซึ่งบอกว่ามีสารสกัดจากชาเขียวช่วยกระชับรูขุมขน พร้อมสารบำรุง Hyaluronateเติมความชุ่มชื่นให้แก่ผิว และปราศจากแอลกอฮอล์อีกด้วย
• GarnierMicellar Cleansing Water Pure Activeที่ขวดนี้บอกว่าสามารถที่จะเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางโดยไม่ต้องล้างน้ำซ้ำเลย แถมยังผ่านการทดสอบว่าช่วยก่อให้เกิดอาการแพ้ได้น้อย และไม่ระคายเคืองต่อดวงตา
โดยเราจะแทนผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 ตามตัวอักษร A B C D และ E เรียงจากซ้ายไปขวาเช่นกัน เพื่อสะดวกในการแสดงผลของการเช็ดทำความสะอาด เริ่มต้นจากลิปสติกเม็ดสีแน่นแท่งโปรดของเรา กดแน่นๆ เหมือนตอนเราทาปากจริงๆ แล้วเช็ด
เห็นผลที่ได้เลยแบรนด์A หรือ Nivea Micellar Water ดูจะชนะกว่าใครในการทำความสะอาด แต่ก็ตามมาติดๆ กับ Smooth E ที่แม้จะบอกว่าอ่อนโยนแต่พลังทำความสะอาดดีจริงๆ ป้ายครั้งเดียวได้ขนาดนี้ และสองแบรนด์ที่ใกล้เคียงกันสุดๆ คือ Bifestaและ Garnierและสุดท้ายคือ Neutrogena อันเดียวยังตัดสินไม่ได้ เรามาลองต่อกับอายไลเนอร์ด้วยดีกว่า
สำหรับอายไลเนอร์เราต้องบอกว่าเราเลือกแบรนด์ที่ทรงพลังมากจริงๆ เรียกว่ากันน้ำขั้นสุด ให้ลงน้ำ ออกเหงื่อ ก็ยังไม่หลุดลอก เพื่อนำมาทดสอบกับ Micellar Water แต่ละแบรนด์ให้เห็นผลจริง และก็ค่อนข้างเป็นไปในทิศทางเดียวกับลิปสติกคือ Neutrogena ยังคงทิ้งคราบของอายไลเนอร์ไว้ค่อนข้างเยอะ และตามมาด้วย Garnierและสองแบรนด์ที่ใกล้เคียงกันคือ Smooth E และ Bifestaและนำมาเช่นเคยกับ Nivea
เมื่อเห็นผลแล้วเราลองมาเปรียบเทียบคุณสมบัติเพิ่มเติมที่แต่ละแบรนด์ให้มาด้วยดีกว่า โดยสองแบรนด์ที่สูสีกันมาอย่าง Smooth E กับ Bifesta นั้น ถ้าต้องการเลือกของความอ่อนโยนและผ่านการทดสอบ Smooth E ก็น่าจะมีความเหมาะสมกับคุณมากกว่า แต่ถ้าอยากได้เรื่องของการควบคุมความมัน Bifesta ก็เหมาะสมกับผิวหน้าของคุณ
ส่วน Garnierก็มีข้อดีสำหรับคนที่อาจจะขี้เกียจสักหน่อย เพราะว่าสามารถเช็ดและไม่ต้องล้างเรียกได้ว่าขั้นตอนเดียวจบ Neutrogena กับน้องใหม่อย่าง Micellar Water อาจจะต้องใช้เวลาในการทำความสะอาดกันเสียหน่อย แต่สำหรับสาวๆ ที่ชอบความอ่อนโยนจริงๆ ก็เลือกใช้กันได้
แต่ที่ประทับใจก็คงจะเป็น Nivea เพราะว่าสามารถทำความสะอาดได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมความมันและเพิ่มออกซิเจนให้กับใบหน้า ซึ่งออกซิเจนนั้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยดูแลผิวตั้งแต่พื้นฐานของผิวเลย ช่วยดูแลผิวหน้าควบคู่ไปกับการล้างเช็ดเครื่องสำอางแบบนี้แถมราคาเบาๆ ถือว่าคุ้มค่าสุดๆ สำหรับสาวๆ อย่างเราเลย
ได้เห็นผลกันอย่างนี้แล้ว สาวๆ ก็ลองไปเลือกหาซื้อใช้กันดูนะ เพื่อจะได้ดูแลความสะอาดของผิวหน้ากันได้อย่างหมดจด ลดเรื่องของปัญหาผิวไปได้อีกเยอะเลย แล้วครั้งหน้าเราจะรีวิวอะไรกันต่อสามารถติดตามกันได้เลย!