อย่ากินทุกอย่างที่ขวางหน้า!! 5 วิธีช่วยลดอาการ “โมโหหิว” อย่างได้ผล!

ลองนึกภาพตัวเองไดเอ็ทมาเป็นเวลา 3 เดือน แล้ววันหนึ่งเกิด “โมโหหิว” เป็นไงละที่ผ่านมารักษาการกินอย่างเคร่งครัดมา มิหนำซ้ำยังทำลายระบบย่อยอาหาร และขยายขนาดกระเพาะอีก มันเซ็งนะคะ และวันนี้เราจะมาหลีกเลี่ยงปัญหาหิวสุดขั้วแบบนี้กันค่ะ

 

diet-choice-chocolate-fruit

1. หิวได้ แต่อย่านาน

อย่าปล่อยให้ตัวเองหิวเป็นเวลายาวนาน เพราะเมื่อร่างกายขาดอาหารตามต้องการแล้ว ก็เกิดความเครียดขึ้นและความรู้สึกยับยั้งชั่งใจก็จะลดลง จึงทำให้เกิดการกินแหลกขึ้นมา ดังนั้นถ้ายิ่งหิวนานก็จะยิ่งแย่ค่ะ

 

2. สีชมพู

สีชมพู ลดอาการหิวได้จริง! โดยนักวิจัยในต่างประเทศได้ทดลองกับอาสาสมัครที่เป็นคนอ้วน 2,300 คน ทดลองด้วยการให้จ้องมองที่กระดาษสีชมพู เป็นเวลา 5 นาที ซึ่งผลก็ชี้ให้เห็นว่า 39 % แล้วได้ผลดีมาก คือรู้สึกว่าจิตใจสงบขึ้น ที่สำคัญคือจะทำให้รู้สึกไม่หิวไปถึง 2-3 ชั่วโมง จึงช่วยลดน้ำหนักตัวลงถึง 8 ปอนด์

 

cravings-woman

3. อย่ากักตุน

อย่าซื้อของโปรดของสาวๆเก็บไว้ในตู้เย็นจำนวนมากๆนะคะ เพราะถ้าสาวๆกลับมาถึงด้วยความหิวโซแล้วเปิดตู้เย็น อาการซัดโฮกก็จะเกิดขึ้นค่ะ จากข้อนี้เราแปลงเป็นสูตรทางคณิตศาสรตร์ได้คือ (ขาดความยับยั้งชั่งใจ + หิวโซ) x ของชอบ = ซัดโฮก! ค่ะ

 

4. กินแก้เครียด

การกินมันทำให้เรารู้สึกดีก็จริง และถ้ายิ่งเครียดจากเรื่องอื่นๆแล้วมากินด้วยยิ่งแล้วใหญ่ เพราะความเครียดไม่ได้แก้ด้วยการใส่ความรู้สึกดีเข้าไป ดังนั้นการใส่ความรู้สึกดีเข้าไปก็เป็นแค่การเบี่ยงเบนความสนใจจากความเครียดไปที่ความรู้สึกดีเท่านั้นเอง การจัดการกับความเครียดอย่างถูกต้องคือการผ่อนคลาย เช่น ออกกำลังกาย ดูหนังฟังเพลง จะดีกว่าค่ะ

 

 

471240_219920784797602_1273468131_o

5. ให้รางวัลตัวเองบ้าง

นักเพาะกายยังมี cheat meal หรือมื้ออาหารที่กินได้ตามใจ เดือนละ 1 หรือ 2 ครั้ง เพราะการกินอาหารไม่อร่อยซ้ำๆเดิมๆมันทำให้เราไม่ชอบ และเมื่อความไม่ชอบสะสมนานเข้าก็อาจจะกลายเป็นการต่อต้านได้ ดังนั้น cheat meal จึงเป็นเหมือนการ reset ความรู้สึกต่อการกินของเราได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ต้องจำไว้ด้วยสติเสมอว่าเราควรจะกินแต่พอดี ไม่มากเกินไป (และคงไม่มีใครกินน้อยเกินไปในวัน cheat meal แน่ๆ) 

 

แล้วก็อย่าลืมออกกำลังกายกันด้วยนะคะสาวๆ

 

เรียบเรียงโดย The Canary Bird

ที่มา sanook