ย้อมผมสีสวยออกจากซาลอนมาหมาดๆ แต่ผ่านไปสักสองสามอาทิตย์ ปรากฎว่าสีเปลี่ยน ไม่เหมือนเดิมเลยสักนิด!! แล้วสาวๆเคยตั้งคำถามไหมคะว่ามันเป็นเพราะอะไรกัน?! มาไขข้อสงสัยนี้ไปพร้อมๆกับ Girlsallaround กัน!!
1. บำรุงผมเยอะเกินไป
น้ำมันบำรุงผม เซรั่มเพิ่มความเงางามต่างๆที่สาวๆใช้ หากใช้อย่างเหมาะสมแน่นอนว่าจะช่วยบำรุงเส้นผมของสาวๆ แต่หากใช้มากเกินไป ผลลัพธ์มันกลับตรงกันข้าม!! เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีส่วนผสมของซิลิโคนที่คอยเคลือบเส้นผมชั้นนอกของเราเอาไว้ เมื่อมีมากเกินไป มันอาจก่อตัวเป็นสิ่งสกปรกที่ติดตามเส้นผม ทำให้สีผมดูหมองลงไป!!
2. จับมัดรวบ ทำดังโงะ หวีแรงเกินไป
ผมเมื่อถูกรัดหรือหวีแรงๆบ่อยๆ อาจทำให้ผมบริเวณนั้นอ่อนแอและบอบบาง หลุดร่วงได้ เมื่อผมเริ่มเปลี่ยนสภาพ เริ่มแห้งและอ่อนแอ ผมบริเวณนั้นอาจจะเปลี่ยนสีไปจากเดิม!!
3. ใช้ความร้อนกับผมมากไป
แน่นอนว่าการใช้ความร้อนไม่ดีต่อผม ยิ่งกับผมทำสีแล้ว ยิ่งเป็นสิ่งต้องห้าม เพราะเมื่อผมอ่อนแอ สีผมก็เกิดหลุดและเปลี่ยนไปได้เช่นกัน
4. ไม่ใช้ครีมนวดหรือทรีตเมนท์
ผมเสียจากการใช้สารเคมีเปลี่ยนสีผมอยู่แล้ว หลังจากสาวๆทำสีผม ผมจะอ่อนแอลงเป็นสองเท่า!! ดังนั้นการใช้ครีมนวดจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างที่สุด และที่สำคัญสาวๆควรใช้ทรีตเมนท์สำหรับผมทำสีควบคู่กันไปเพื่อให้สีผมสวยเป็นประกาย
5. โดนแสงแดดบ่อยๆ
ใครว่าแสงแดดไม่มีผล!! แสงแดดก็มีผลต่อผมทำสีเหมือนกับการใช้ความร้อนกับเส้นผมเลยนะ แต่แย่เสียกว่าเพราะมีรังสี UV เพราะเจ้ารังสี UV นี่แหละ จะมาพรากความชุ่มชื้นไปจากผมของสาวๆ และในที่สุดผมทำสีสวยๆก็จะเปลี่ยนสีไป ไม่เท่ากันบ้าง อ่อนไปบ้าง!!
ผมทำสีอ่อนแอกว่าผมปกติถึง 2 เท่านะคะ ดังนั้นผมทำสีจึงควรได้รับการดูแลเป็น 2 เท่าเช่นกัน หากสาวๆละเลยขั้นตอนการดูแลผมทำสีล่ะก็ สีผมของสาวๆก็อาจจะเปลี่ยนไป ไม่ถูกใจเหมือนเดิม ทำให้สาวๆต้องเปลี่ยนสีผมบ่อยขึ้น ดังนั้นดูแลผมทำสีของสาวๆให้ดี เพื่อเส้นผมที่มีสีสวยประกายเจิดจรัส!!
แปลและเรียบเรียงโดย poppypoppy
ที่มา elle