แอดเชื่อว่าการ’ถ่ายไม่ออก’หรือเรียกง่ายๆว่า’ท้องผูก’เป็นสิ่งที่กวนใจสาวๆแน่ๆ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่ได้ถ่ายก็จะต้องรู้สึกอึดอัด ไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวและไม่เป็นอันทำอะไรเลยอย่างแน่นอน(เพราะแอดก็เป็นบ่อย) บางคนหนักหน่อยพอไม่ได้ถ่ายหลายๆวันเข้าผายลมออกมาทีนี่ อื้อหืออออออออ แก๊สชีวภาพชั้นดีเลย! แอดกับ Girlsallaround เลยขอมาเป็นตัวแทนที่ช่วยให้สาวๆเข้าใจปัญหาท้องผูกและวิธีแก้อย่างถูกต้องได้ผลจริงมาให้สาวๆได้รู้กันค่ะ
แบบไหนที่เรียกว่า’ท้องผูก’?
สาวๆจะรู้ได้ว่าเรามีอาการ’ท้องผูก’หรือไม่นั้น ดูได้จากการถ่ายอุจาระน้อยฝิดปกติคือน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ในการขับถ่ายอุจจาระแต่ละครั้งก็จะต้องใช้แรงเยอะมาก และอุจจาระเป็นก้อนแข็งแห้ง แม้จะพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินสักเท่าไหร่ก็ยังไม่ถ่าย เช่น พยายามกินโยเกิร์ตก็แล้วแต่ก็ยังไม่ถ่าย นั่นแสดงว่าสาวๆกำลังมีอาการท้องผูกนั่นเองค่ะ โดยทั่วไปแล้วอาการท้องผูกจะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายนะคะ โดยเฉพาะในวัยกลางคนขึ้นไป รวมถึงกล่มคนที่มีอายุ 60-65 ปีขึ้นไปค่ะ
สำหรับใครที่ไม่ได้ถ่ายนานๆ แบบว่านานนานนนนนจะถ่ายครั้งหนึ่ง อุจจาระก็จะแข็ง แห้ง มีกลิ่นเหม็น หากปล่อยไว้นานๆล่ะก็อาจจะทำให้กลายเป็นอาการท้องผูกแบบเรื้อรัง(เป็นระยะยาว)ซึ่งสามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้ เช่น ริดสีดวงทวาร การฉีกขาดของผิวหนังรอบๆรูทวาร ลำไส้ปลิ้น หรือแม้กระทั่งมะเร็งลำไส้ก็สามารถเป็นได้!
สาเหตุของอาการ’ท้องผูก’
1.การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์น้อย หลายคนไม่ชอบกินผักแต่ชอบรับประทานพวกเนื้อสัตว์มากกว่าซึ่งย่อยยาก ทำให้เกิดอาการท้องผูกได้
2.ความเครียด จะส่งผลกระทบให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานแปรปรวน รวมทั้งระบบขับถ่ายด้วย
3.ชอบกลั้นอุจจาระ การกลั้นอุจจาระบ่อยๆจะทำให้ความรู้สึกอยากถ่ายหายไป และอาการท้องผูกจะเข้ามาแทน
4.ไม่ค่อยออกกำลังกาย การไม่ค่อยขยับหรืออยู่กับที่นานๆจะทำให้ร่างกายต้องการพลังงานน้อยลง ส่งผลให้ระบบเผาผลาญอาหารน้อยลงด้วย
5.การรับประทานยาบางชนิด ยารักษาโรคบางอย่างมีผลข้างเคียงให้เกิดอาการท้องผูกได้ เช่น ยาคลายเครียด ยาเคลือบกระเพาะ ยาแก้ความดันสูง ยาลดกรด เป็นต้น
แค่เปลี่ยนพฤติกรรม ก็โบกมือลา’ท้องผูก’ได้แล้ว
1.ดื่มน้ำมากๆ
Pic drink water
สาวๆควรดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอและเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำด้วยนั่นเอง และที่สำคัญสาวๆควรงดดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีน แอลกอฮอล์ และน้ำอัดลมด้วยน้าา เพราะเครื่องดื่มพวกนั้นจะยิ่งทำให้ร่างกายขาดน้ำมากขึ้น
2.รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์เยอะๆ
Pic eating fruit
ผักและผลไม้ที่นอกจากจะมีคอลลาเจนทำให้ผิวสวยสุขภาพดีแล้ว แต่ผักและผลไม้ก็ยังมีไฟเบอร์ที่ช่วยให้อุจจาระมีความอ่อนตัวทำให้สาวๆถ่ายง่ายถ่ายคล่องมากขึ้น แต่หากสาวๆทานมากไปสาวๆจะมีอาการท้องอืดแทนนะคะ ดังนั้นควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ โดยทั่วไปแล้วร่างกายต้องการไฟเบอร์เพียง30กรัมเท่านั้นค่ะ
3.หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
Pic workout
การออกกำลังการเพียงเล็กๆน้อยๆแต่ออกเป็นประจำก็สามารถกระตุ้นให้ร่างกายของเราได้เคลื่อนไหว ซึ่งจะส่งผลให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงาานดีขึ้น และรวมถึงระบบการย่อยและขับถ่ายของเราก็จะดีขึ้นด้วยนะคะสาวๆ แอดแนะนำว่าสาวๆควรออกอย่างน้อย30นาทีต่อวัน หรือหากสาวๆคนไหนไม่มีเวลามากนักลองเดินออกกำลังกายในที่ทำงานหรือทำกายบริหารเล็กน้อยๆก็ได้แล้วค่ะ
4.ห้ามกลั้นอุจจาระเด็ดขาด!
ทุกครั้งที่สาวๆรู้สึกอยากถ่าย สาวๆต้องไปถ่ายเลยนะคะหากกลั้นไว้บ่อยๆร่างกายก็จะเคยชิน ทำให้ความอยากถ่ายน้อยลง และสาวๆควรฝึกการขับถ่ายให้เป็นกิจวัตรด้วยนะ นั่งไปเลยแบบผ่อนคลายไม่ต้องรีบให้เวลากับมันหน่อย โดยปกติแล้วช่วง 05.00-07.00น. เป็นช่วงที่ลำไส้ใหญ่ทำงานได้ดีที่สุด และช่วงนี้และค่ะสาวๆเป็นเวลาที่เราถ่ายอุจจาระได้ง่ายที่สุด ดังนั้นตื่นเช้ามาเข้าห้องน้ำให้ฟินกันดีกว่าค่ะ
5.เลี่ยงการทานยาระบายหน่อยนะ
Pic laxative
ในการทานยาระบายในระยะแรกนั้น อาจจะได้ผลดีสำหรับสาวๆแต่นานๆไปประสิทธิภาพมันก็จะลดลงค่ะ เพราะยาระบายจะไปกระตุ้นการทำงานของลำไส้ เมื่อโดนกระตุ้นบ่อยๆเข้า มันก็จะชินส่งผลให้เกิดการดื้อยาตามมา ทำให้เกิดอาการท้องผูกเมื่อไม่ทานยา และเมื่อต้องการจะใช้ยาระบายอีกครั้งคราวนี้สาวๆก็ต้องใช้ยาที่แรงกว่าปกติในการกระตุ้นลำไส้ และที่สำคัญสาวๆควรมีการปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้งด้วยนะคะ
6.ลดความเครียดลงหน่อย
Pic stress
ความเครียดไม่ได้ส่งผลแค่จิตใจของเราแต่รวมถึงร่างกายของเราด้วย เมื่อเรามีความเครียดหรือความกดดัน การทำงานของระบบต่างๆของร่างกายเราก็จะแปรปรวน ดังนั้นทำจิตใจให้แจ่มใส เบิกบาน เข้าไว้นะคะเพราะนอกจากจะส่งผลดีต่อตัวเราแล้วยังทำให้คนรอบข้างของเราเบิกบานไปด้วย
ผักผลไม้แก้ท้องผูก
มะขามแขก มีฤทธิ์เป็นยาระบายเลยล่ะค่ะโดยการทานมะขามแขกนั้นสาวๆจะต้องรับประทานตอนกลางคืน ซึ่งช่วยให้อุจจาระของเรานิ่มขึ้น การขับถ่ายจึงง่ายขึ้นด้วยค่ะ แต่สาวๆไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานเกินไปนะ ควรใช้รักษาอาการท้องผูกเป็นครั้งคราวเท่านั้น เพราะจะทำให้สาวๆขาดธาตุโปแตสเซียม และทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการบีบตัวของลำไส้
ลูกพรุน มีทั้งแบบน้ำ แบบอบแห้ง หรือแบบสดๆให้สาวๆได้เลือกทานตามใจชอบ เจ้าลูกพรุนเนี่ยนางมีสรรพคุณเป็น’ยาระบายอ่อนๆ’เพราะมีกากใยมาก ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นและอุจจาระอ่อนนุ่ม คราวนี้ล่ะอึ๊ก็จะไม่บาดตูดสาวๆให้เสี่ยงเป็นริดสีดวงไปอีกแล้วล่ะค่ะ
Pic prunes
กล้วยน้ำว้าสุก ในกล้วยน้ำว้าสุกนั้นจะมีเพกตินอยุ่มากซึ่งจะช่วยแก้อาการท้องผูกได้ดี และยังมีไฟเบอร์ที่ช่วยเพิ่มกากอาหารให้ลำไส้ได้อีก นอกจากนี้กล้วยน้ำว้าสุกยังมีความพิเศษตรงที่นางมีเมือกค่ะ!! ซึ่งเจ้ามือกลื่นๆนี้จะช่วยให้การขับถ่ายสะดวกยิ่งขึ้น แบบลื่นปรื๊ด ลื่นปรื๊ดกันเลยที่เดียวค่ะสาวๆ
แอปเปิลเขียว ถือว่าเป็นผลไม้ที่หาทานง่ายตามท้อตลาดทั่วไป แต่คุณภาพไม่ตลาดเลย เพราะในแอปเปิ้ลนั้นมีไฟเบอร์อยู่มากถึง4.4กรัม ต่อ 1ผลแน่ะ! และถ้าสาวๆยิ่งกินแอปเปิลเขียวทั้งเปลือกล่ะก็ จะช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้ดีมากๆเลยล่ะค่ะ เพราะเปลือกของแอปเปิ้ลนั่นแหละค่ะที่ไฟเบอร์เยอะที่สุดถ้าเทียบกับเนื้อของมันเเล้ว
Pic green apple
มะละกอ แอดว่าสาวๆคงไม่มีใครไม่รู้จักฤทธิ์เดชของเจ้ามะละกอแน่ๆ เพราะเจ้ามะละกอมีน้ำย่อยธรรมชาติในตัวของมันเอง หรือเรียกว่าเอนไซม์ปาเปนนั่นเอง ซึ่งลักษณะของน้ำย่อยตัวนี้คล้ายกับน้ำย่อยเปปซินในกระเพาะอาหาร จึงสามารถช่วยกำจัดคราบโปรตีนเก่าๆ ที่ย่อยไม่หมดจนไปขัดขวางการขับถ่ายของให้ลำไส้ออกไปได้ค่ะสาวๆ
Pic papaya
สับปะรด ในสับปะรดนั้นจะมีน้ำย่อยธรรมชาติในตัวเองเช่นเดียวกับมะละกอเลยค่ะสาวๆ ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องของการย่อยอาหารอยู่มากๆ และไม่พอค่ะสับปะรดยังมีกากใยอาหารอยู่เยอะแยะซึ่งเจ้ากากใยอาหารนั้นก็มีส่วนสำคัญในการทำงานของระบบขับถ่ายอีก! ดีทั้งย่อยทั้งขับถ่ายรู้อย่างนี้แล้วก็ไปจัดมาโล้ดดดด ปล.อย่าทานเยอะเกินไปนะคะสาวๆไม่งั้นแสบลิ้นแน่ๆ
Pic pineapple
เม็ดแมงลัก ในเมล็ดแมงลักที่นำไปแช่น้ำแล้วนั้นจะมีเมือกหล่อลื่นที่ช่วยให้อุจจาระอ่อนตัว และทำให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้นนะคคะสาวๆ แต่ก่อนอื่นเลยสาวๆต้องรอให้แมงลักพองตัวเต็มที่เท่านั้นจึงทานได้นะถ้าเม็ดแมงลักยังพองตัวไม่เต็มที่แล้วเราทานเข้าไปล่ะก็ มันก็จะไปดูดน้ำจากกระเพาะอาหารและลำไส้ของเราแทน ทำให้อุจจาระแข็งและอุดตัน เราก็จะมีอาการท้องผูกหนักขึ้นไปอีก!
Pic basil seeds
มะเดื่อฝรั่งหรือลูกฟิก ทั้งสามารถบำรุงร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งเซลล์มะเร็ง แก้อาการร้อนใน โอ้ยยยย ผลไม้ครอบจักรวาลรึเปล่เนี่ย! นอกจากนี้แล้วนางก็ยังช่วยให้ระบบขับถ่ายของเราดีขึ้นอีกนะ แถมดีต่อกระบวนการกำจัดของเสียในร่างกายอีก เพราะนางมีไฟเบอร์อยู่เยอะมากกก โดยในผลมะเดื่อสดจะมีเส้นใยอาหารอยู่ราว ๆ 1.2% ส่วนในผลมะเดื่อฝรั่งอบแห้งมีเส้นใยอาหารสูงถึง 5.6% เลยทีเดียวค่ะสาวๆ!
Pic figs
วันนี้แอดก็มาแบบยาวเหยียดจัดหนักจัดเต็มเลยทีเดียว หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับสาวๆนะคะ เชื่อแอดสิคะว่าถ้าทำตามวิธีที่แอดบอกเป็นประจำล่ะก็ โบกมือลาอาการท้องผูกอย่างถาวรได้เลยล่ะค่ะ! และแอดฝากไว้อีกอย่างค่ะ อย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆด้วยล่ะ