เมื่อพูดถึง “สกินแคร์” หลายๆคนก็คงจะนึกถึงเซรั่มบ้าง ครีมบ้าง กันแดดบ้าง แต่จะมีซักกี่คนที่รวม “โทนเนอร์” ลงไปในขั้นตอนการดูแลผิวประจำวัน จริงๆแล้วโทนเนอร์นั้นสำคัญมากนะจ๊ะสาวๆ เมื่อสาวๆอ่านบทความนี้จบต้องรีบไปหาซื้อมาใช้กันแทบไม่ทันแน่ๆเลย เอาล่ะลองมาดู 7 ประโยชน์ของโทนเนอร์กันดีกว่าจ้า
1. รวมโทนเนอร์เข้าไปในเหล่าสกินแคร์
ผิวของเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบมาก การที่ผิวขาดน้ำก็จะทำให้รูขุมขนใหญ่ขึ้น ริ้วรอยต่างๆก็ชัดขึ้น สาวๆควรใช้โทนเนอร์ก่อนทาม็อยสเจอร์ไรเซอร์นะจ๊ะ เพราะมันจะยิ่งคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวยังไงล่ะ
2. วิวัฒนาการของโทนเนอร์
สมัยก่อนนั้นโทนเนอร์มีไว้ใช้แค่เช็ดคราบเครื่องสำอางที่ล้างออกไม่หมดและปรับสภาพผิวหลังล้างหน้า แต่ปัจจุบันโทนเนอร์มีส่วนช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดไป และยังเป็นการเตรียมผิวก่อนการบำรุงเพื่อการดูดซึมสารอาหารที่ดีขึ้น
3. ส่วนประกอบที่สำคัญ
โทนเนอร์ที่ดีที่สุดคือแบบที่ไม่มีแอลกอฮอล์ สำหรับสาวๆที่ผิวมันและมีปัญหาสิวนั้น โทนเนอร์ที่มีไกลโคลิคแอซิดนั้นดีที่สุดนะจ๊ะ เพราะมันจะลดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าและช่วยทำความสะอาดใบหน้าให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยล่ะ
4. โทนเนอร์ที่ดีมีประโยชน์กว่าที่คิดนะจ๊ะ
นอกจากจะช่วยปรับความสมดุลของค่า pH บนผิวหน้าแล้ว มันยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้า โดยเฉพาะโทนเนอร์ที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติอย่าง กุหลาบ มะนาว พลัม สตรอเบอรี่และคาโมมายล์
5. ใช้เป็นประจำทุกวัน
เพื่อเห็นผลดีที่สุดสาวๆควรใช้โทนเนอร์อย่างน้อยวันละครั้งหลังคลีนเซอร์ก่อนลงม็อยสเจอร์ไรเซอร์นะจ๊ะ หรือสาวๆสามารถใช้โทนเนอร์ได้วันละหลายครั้งตามที่ต้องการเลยจ้า
6. การใช้โทนเนอร์อย่างถูกต้อง
สาวผิวมันควรใช้โทนเนอร์ที่โปะลงบนสำลีสำหรับการล้างหน้า แต่ถ้าอยากใช้เพื่อให้ผิวหน้าชุ่มชื้นล่ะก็ใช้มือเปล่าๆเนี่ยแหละจ้าค่อยๆกดให้โทนเนอร์ซึมไปบนผิวหน้า ระวังอย่าให้เข้าตาล่ะ
7. เรื่องฤดูกาลก็สำคัญนะ
อย่างหน้าหนาวนี้ผิวของสาวๆจะแห้งกว่าที่เคย สาวๆก็ควรเปลี่ยนโทนเนอร์มาเป็นแบบที่ให้ความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ แต่ถ้าถึงหน้าร้อนเมื่อไหร่ สาวๆก็ควรเปลี่ยนมาใช้แบบที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เพราะในหน้าร้อนนั้นจะเกิดเซลล์ผิวที่ตายแล้วมากกว่าฤดูอื่นๆนะจ๊ะ
เห็นมั้ยล่ะว่าโทนเนอร์มีความสำคัญมากนะจ๊ะ สาวๆคนไหนที่ยังไม่มีโทนเนอร์ก็รีบไปหาซื้อมาด่วนเลย!!
แปลและเรียบเรียงโดย The Canary Bird
ที่มา beautyhigh