รอยสิวร้ายจงหายไป!! 10 วิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิวอย่างได้ผล!!

ปัญหาผิวเป็นหลุมเป็นบ่อเหมือนพื้นผิวดวงจันทร์สามารถแก้ไขได้ ถ้าปัญหานี้เกิดกับตัวสาวๆหรือคนรู้จักก็ลองมาอ่านดูนะคะ ปัญหาผิวหน้าเป็นหลุม หรือรอยแผลต่างๆที่เกิดจากสิว ที่เค้าว่าแก้ยากไม่หายสักทีก็จะค่อยๆหายไปค่ะ

ขั้นแรกมาดูกันก่อนค่ะว่ามีอะไรบ้าง

 

หลุมสิว


et2

เนื้อนูน

fd

 

รอยแดง

df

 

และแนวทางการใช้แก้ปัญหาก็คือ

 

1. ป้องกันไม่ให้เกิดสิวเพิ่ม

ถ้าวันไหนตื่นเช้ามาแล้วเห็นสิวอักเสบปูดขึ้นมาละก็ สาวๆต้องรีบรักษาให้หายเร็วที่สุด ห้ามบีบหรือแกะเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบและอาจจะทำให้เป็นแผลเป็นได้ ควรงดเครื่องสำอางหรือครีมที่เหนียว เพราะอาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิวใหม่ได้

 

2. ใช้ยารักษา

เช่นยาแต้มสิวพวก TCA กรดวิตามินพวก Retin A หรือลอกหน้าด้วยกรดผลไม้ AHA BHA PHA เป็นต้น

t1

3. ใช้ครีมลดรอยแผลเป็น

สามารถหาซื้อได้ทั่วไป และที่นิยมใช้ก็จะเป็นยี่ห้อ Mederma (เมเดอร์มา) Hiruscar (ฮีรูสการ์) Scargel (สการ์เจล) การรักษาด้วยยาทานี้จะใช้เวลาค่อนข้างนาน หากอาการไม่ดีขึ้นก็ควรไปพบแพทย์ผิวหนังค่ะ

dfdf

4. การทำไอออนโต

เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

 

5.ใช้สเตียรอยด์

เพื่อรักษาแผลเป็นที่นูน ควรรับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

6. ฉีดฟิลเลอร์

แผลที่เป็นหลุมสามารถเติมให้ตื้นขึ้นด้วยการฉีดฟิลเลอร์ค่ะ

 

7. การกรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี

เป็นการลอกผิวชั้นนอกออกบางๆด้วยอัญมณีขนาดเล็ก

 

erer

 

8. IPL ( Intense Pulsed Light )

กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ต้องทำอย่างต่อเนื่องทุก 2 สัปดาห์

 

 

 

q

 

9. ใช้เลเซอร์

กำจัดรอยแผลด้วยเลเซอร์เป็นวิธีที่เห็นผลเร็วมาก แต่ก็ต้องทำซ้ำอยู่หลายครั้งเช่นกัน

 

10. การผ่าตัด

วิธีนี้จะใช้ก็ต่อเมื่อเป็นแผลนูนมากๆ หรือหลุมลึกมากๆ เป็นตัวเลือกสุดท้ายถ้าวิธีการอื่นๆไม่ได้ผล

 

ยังไงซะสาวๆอย่างเราก็รักษาผิวหน้าให้ดีตั้งแต่แรกดีกว่านะคะจะได่ไม่เป็นปัญหาใหญ่ภายหลัง

 

เรียบเรียงโดย The Canary Bird

ที่มา thaijobsgov