จะมีสักกี่คนที่สามารถทำตามหลักสุขบัญญัติที่ว่า ให้ขับถ่ายทุกเช้าในเวลา 05.00-07.00 น. เพราะไลฟ์สไตล์แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ของอย่างนี้มันฝึกกันได้นะคะ เพื่อสุขภาพที่ดี ถ้าไม่เริ่มตั้งแต่วันนี้ มันอาจส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณมากมายกว่าที่คิดก็ได้นะ
ถ้าคุณไม่ขับถ่ายตอน 5.00 – 7.00 โมงเช้า หรือขับถ่ายหลังจากนั้น…?
ลำไส้จะบีบให้อุจจาระขึ้นไปข้างบน ขับถ่ายออกไม่หมด อุจจาระที่ค้างจะเกาะที่ผนังลำไส้ พอมีอุจจาระใหม่ที่เหลวกว่า ก็จะแซงหน้าไปก่อน แต่มันไม่สามารถดันพวกที่ค้างแข็งให้ออกไปได้ พวกที่ค้างแข็งก็เกาะติดแน่นไปเรื่อยๆ ไปทับเส้นเลือดต่างๆ ในกระเพาะและกดทับกระดูกหลัง ทำให้ ท้องอืด ปวดหลัง ปวดขา ปวดกล้ามเนื้อที่ไหล่และสะบัก เวียนหัว อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เป็นฝ้า ไมเกรนและอื่น ๆ
วิธีตรวจอุจจาระที่ค้างในลำไส้ใหญ่ง่ายๆ
นอนหงายแล้วเอามือคลำท้องด้านซ้ายล่างเลยสะดือไปทางซ้ายหน่อย เอานิ้วทั้ง 5 ลองกดดูจนลึกเต็มที่เลื่อนไปมา ถ้ามีอึค้างอยู่จะคลำได้เป็นลำคล้ายแท่งยาว ๆ อยู่ตามรูปลักษณ์ของ ลำไส้ โดยลำไส้ใหญ่นี้จะยิ่งคลำได้ชัดในคนที่ผอม สำหรับคนเจ้าเนื้ออาจต้องใช้เทคนิคนอนแล้วแขม่วพุงช่วยแล้วค่อยคลำจะชัดขึ้น
คนที่มักเกิดปัญหานี้ คือ คนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายและมีนิสัยชอบกลั้นอึ โดยเฉพาะคนที่ทำงานออฟฟิศที่ต้องนั่งอยู่กับที่แทบทั้งวัน ลุกเดินเข้าห้องน้ำ เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆก็ดีค่ะ
เทคนิคอุจจาระง่าย ไม่ตกค้าง
– อย่าอั้นอึในตอนเช้า
– ฝึกอึให้เป็นเวลา
– นวดลำไส้ ตรงท้องด้านล่างซ้ายเลยสะดือไป นวดเบาๆ ไปมาแล้วทิ้งไว้สักพักจะรู้สึกปวดถ่ายขึ้นมา
– เอามือกดท้องด้านซ้ายล่างขณะถ่าย หรือจะลุกขึ้นนั่งยองเอาหน้าขาเป็นตัวกดไล่อึออกมาก็ได้
การขับถ่ายให้เป็นเวลาฝึกกันได้ สำหรับคนที่ขับถ่ายทุกวันอยู่แล้วแต่ไม่ใช่ตอนเช้า ลองเปลี่ยนเวลาดูค่ะ คุณจะพบว่าความรู้สึกตอนท้องโล่งๆแล้วไปกินข้าวเช้ามันดีมากๆ
เรียบเรียงโดย MaryLiu
ขอบคุณข้อมูลจาก baabin,bedtaledidea,กลุ่มสุขภาพดีมีไว้แบ่งปัน