9 เหตุผลว่าทำไม ‘พุงใหญ่พุงย้อย’ ยังไงก็ยังงั้น ลดให้ตายก็ไม่ยุบ

เรื่องกินเป็นเรื่องง่าย น้ำหนักขึ้นก็เรื่องง่าย แต่เรื่องลดน้ำหนักเนี่ยสิ ยากยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น ยิ่งไขมันไปสะสมตรงส่วนที่ลดยากสุดๆอย่าต้นขา หรือหน้าท้องเนี่ยสิ นอกจากจะใช้เวลาและความอดทนในการกินและการออกกำลังกายแล้ว ถ้าทำผิดวิธีทำให้ตายยังไงมันก็ไม่ลด

Girlsallaround จะบอกว่าทำไมสาวๆถึงลดพุงไม่ได้ซักที ถึงจะพยายามลดน้ำหนักแล้ว พุงใหญ่อยู่อย่างนั้นไม่หายไปไหน ใส่เสื้อผ้าก็ไม่สวย แถมอาจจะเป็นเพราะมีโรคแทรกซ้อนด้วยนะ! มาดูกันให้ชัดๆดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้น

1. ไม่ยอมลดแอลกอฮอล์

1380x921_0003_HONEY-1

ทั้งเหล้าทั้งเบียร์นี่แหละตัวดีพาคุณอ้วนเลย เพราะเมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป ร่างกายจะคิดว่านี่เป็นของมีพิษ ต้องกำจัดออกจากร่างกายก่อน แล้วอาหารที่คุณกินไปล่ะ ถ้ามันไม่ถูกเผาผลาญ มันก็จะเก็บสะสมเป็นไขมันแทน แถมแคลอรี่ในแอลกอฮอล์ก็ไม่ใช่น้อยๆด้วย เหล้า 1 แก้วก็ประมาณ 100 แคลอรี่ เบียร์ 1 กระป๋องก็ 150 แคลอรี่ แต่ในคืนปาร์ตี้สาวๆไม่หยุดอยู่ที่แก้วเดียวหรอก รวมๆกันแคลอรี่ก็เกินข้าวจานนึงแล้ว เพราะฉะนั้นเลือกได้ก็อย่าเพิ่งดื่มแอลกอฮอล์ตอนลดความอ้วนดีกว่า เพราะจะให้ออกกำลังกายไปก็ไม่ได้ผลหรอกค่ะ

2. อายุมากขึ้น

b85003e07afc3506771a33290dce2ef9

ยิ่งอายุมากก็ลดไขมันได้ยากขึ้น ยิ่งเป็นผู้หญิงแล้วเนี่ยยากกว่าผู้ชายหลายเท่าเลย เมื่อผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ไขมันสะสมก็จะไปสะสมตรงหน้าท้อง ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเทอโรนที่เป็นฮอร์โมนประจำเพศหญิงจะถูกผลิตน้อยลง ส่งผลให้ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนของผู้ชายมีอัตราสูงขึ้นอย่างช้าๆ ความเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนนี้ทำให้การควบคุมน้ำหนักของผู้หญิงเป็นไปได้ยากมากขึ้น แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางสู้กับมัน ให้ดูแลตัวเองมากขึ้น กินอาหารที่มีประโยชน์ ลดของทอด ลดแป้ง เน้นปลาและผักผลไม้ หน้าท้องแบนราบก็ไม่ยากเกินความตั้งใจหรอกนะคะ

3. ออกกำลังกายน้อยเกินไป

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอหรือออกให้หัวใจเต้นเร็วๆอย่าง วิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยานนั้นก็ดีค่ะ แต่แค่คาร์ดิโอไม่เพียงพอต่อการลดน้ำหนักหรอกนะคะ การคาร์ดิโอจะช่วยเบิร์นไขมันได้ก็จริงแต่ถ้าคาร์ดิโออย่างเดียว ร่างกายก็จะแค่แข็งแรงขึ้น แต่ตัวยังจะย้วยๆไม่เฟิร์ม ขอให้เพิ่มการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งเข้าไปด้วย ร่างกายจะได้มีกล้ามเนื้อไปรีดไขมันช่วยด้วยอีกทาง เวลาเข้าฟิตเนสอย่าไปกลัวเวทเลยค่ะสาวๆ เข้าไปเล่นเลย ไม่ต้องไปอยู่แค่ลู่วิ่ง eliptical หรือ จักรยาน อย่างเดียว

ลองออกกำลังกายแบบระดับปานกลาง (Moderate-Intensity Exercise) หรือการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องนาน 30-60 นาที/ครั้ง ให้ได้ประมาณ 250 นาที/สัปดาห์ หรือพยายามออกกำลังกายแบบเข้มข้นสูง (High-Intensity Exercise) ซึ่งจะเป็นการออกกำลังกายแบบเร็วและออกแรงสุดและค่อย ๆ ผ่อนให้ช้าสลับกันไปเป็นช่วง ๆ อย่างนี้ให้ได้สัปดาห์ละ 125 นาที จะได้ผลในแง่ของการลดน้ำหนักได้ดี

4. ทานอาหารสำเร็จรูปมากเกินไป

processed

อาหารอย่างพวกขนมปังขาวขัดสี มันฝรั่งทอด และน้ำหวานต่างๆ รู้อยู่แล้วว่าควรงดในช่วงลดน้ำหนัก เพราะยิ่งทานเข้าไปหน้าท้องก็มาเต็มและลดไม่ได้ซักที ยิ่งกินเข้าไปยิ่งลดพุงยาก เปลี่ยนมากินของหวานๆจากธรรมชาติอย่างผักผลไม้และขนมปังโฮลวีตที่เต็มไปด้วยสารแอนติออกซิแดนท์ดีกว่า นอกจากจะทำให้ลดน้ำหนักได้ยังป้องกันไม่ให้อ้วนขึ้นง่ายๆด้วยนะคะ

5. กินไขมันผิดประเภท

Monounsaturated Fats

การลดน้ำหนักไม่ใช่ให้ลดไขมันไปเลยโดยสิ้นเชิงนะคะ ร่างกายยังต้องใช้ไขมันในการลดน้ำหนักและทำให้ร่างกายแข็งแรงด้วย แต่ให้เลือกกินไขมันให้ถูกประเภท หลีกเลี่ยงการทานอาหารประเภทไขมันอิ่มตัวอย่างไขมันจากเนื้อสัตว์ติดมันและไขมันจากผลิตภัณฑ์นมต่างๆ เนื่องจากไขมันอิ่มตัวประเภทนี้จะเข้าไปสะสมอยู่ในช่วงท้อง กลายเป็นไขมันที่เกาะอยู่ภายในอวัยวะ (Visceral Fat) เป็นที่มาของรอบเอวหนา ๆ และเซลลูไลท์นั่นเอง

เปลี่ยนมาทานไขมันชนิดดีได้แก่ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fats) ประเภทไขมันจากอะโวคาโด น้ำมันมะกอก เป็นต้น และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated Fats) ประเภทไขมันจากเมล็ดดอกทานตะวัน ไขมันจากปลา ไขมันจากถั่วชนิดต่าง ๆ ซึ่งมักจะมีโอเมก้า 3 อยู่มาก ช่วยลดไขมันเลวได้ดีเชียวแหละ

6. ยิ่งเครียดยิ่งอ้วน

ความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันต่างๆนอกจากจะทำให้สาวๆโหยหาของกินมาทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นซึ่งเป็นเหตุให้น้ำหนักพุงขึ้นพรวดๆแล้ว ความเครียดยังทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลที่เป็นเหตุให้ไขมันในเลือดพุ่งกระจายไปยังเซลล์ต่างๆ รวมถึงตรงหน้าท้องได้ง่ายขึ้น ทำใจให้สบายๆแก้ไขปัญหาและมาลองฝึกสมาธิกันดีกว่า

7. นอนน้อยเกินไป

ผลวิจัยจากสถาบันสุขภาพนานาชาติของอเมริกาเผยว่า กลุ่มคนที่นอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมง มีอัตราน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 30% หรือมากกว่านั้น ในขณะที่อาสาสมัครกลุ่มที่นอนหลับวันละ 7-8 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ มีแนวโน้มน้ำหนักตัวลดลง ซึ่งก็สรุปได้ว่า คนที่นอนน้อยร่างกายจะเกิดการแปรปรวน กระบวนการเผาผลาญต่าง ๆ ก็ด้อยประสิทธิภาพลงจนเป็นเหตุให้มีโอกาสพุงใหญ่พุงย้อยกว่านั่นเอง เพราะฉะนั้นถ้าอยากลดพุงให้ได้ผลก็นอนให้เพียงพอกันดีกว่าค่ะ

8. สาวๆมีรูปร่างทรงแอปเปิ้ล

aid1621524-v4-728px-Dress-an-Apple-Shape-Body-Step-7-Version-2

หากสาวๆเป็นคนที่เกิดมาช่วงเอวหนากว่าส่วนสะโพกและบั้นท้าย รูปร่างลักษณะนี้เรียกว่าทรงแอปเปิล ซึ่งธรรมชาติของยีนลักษณะนี้จะบังคับให้คุณเป็นคนที่มีหน้าท้องโดยอัตโนมัติ แถมยังลดหน้าท้องได้ยากกว่าสาวๆหุ่นลักษณะอื่นๆ อีกด้วย แต่ไม่ต้องน้อยใจไปให้ทานอาหารและออกกำลังกายรักษาสุขภาพไป ทำเท่าไหนได้เท่านั้น หุ่นที่ดีขึ้นก็ไม่หนีไปไหนแน่นอน

9. ภาวะของโรคบางอย่างที่ไม่ควรมองข้าม

07apr-endo_2527277b

ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบหรือ Polycystic Ovary Syndrome (PCOS) อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนออกมามากกว่าปกติ เป็นผลให้น้ำหนักขึ้นง่าย และมีภาวะผิดปกติในหลาย ๆ จุด โดยส่วนมากจะเกิดกับหญิงวัยเจริญพันธุ์ที่มีปรจำเดือน ซึ่งอาจทำให้คุณมีปัญหากับประจำเดือน ขนดก มีบุตรยาก ผิวหน้ามัน และเป็นสิวมากร่วมด้วย


รู้เหตุผลแล้วอย่าลืมเอาไปปรับกันนะคะ หน้าท้องแบนราบสวยๆไม่ยากเกินความสามารถแน่ๆ