เข้าใจว่าการลดปริมาณาอาหารลงสำหรับคนที่กำลังลดความอ้วนนั้นช่างยากเย็นเหลือเกิน ยิ่งเป็นคนที่เคยทานเยอะๆมาก่อนคงจะยากขึ้นเป็นเท่าตัว
ถ้าบังคับตัวเองให้กินให้น้อยลงมันยากมากแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้เปลี่ยนมาใช้วิธีหลอกสมองว่าเรากินเยอะแล้วนะ แต่ที่จริงแล้วกินน้อยลงกว่าเดิมด้วย 10 วิธีนี้กันค่ะ
1. เปลี่ยนจานข้าวที่กินทุกวันให้มีขนาดเล็กลง
จากรายงานผลการวิจัยในเดือนมกราคม 2012 โดยวารสารวิจัยผู้บริโภค พบว่าคนเรามักจะตักอาหารน้อยลงเมื่อใช้จานที่เล็กกว่าทานอาหาร ยิ่งจานใหญ่เราก็ยิ่งจะตักอาหารให้เต็มจาน หรือถ้าตักอาหารให้น้อยลง สมองก็จะคิดว่านี่มันน้อยเกินไป ทำให้เราอยากอาหารมากขึ้นไปอีก
โดยทางกลับกัน ถ้าเราตักอาหารให้พอดีกับจานเล็ก สมองก็จะคิดว่าอาหารในจานนี่มีมากพอแล้ว และจะทำให้เราอื่มไวขึ้น
2. ใช้จานชามที่มีสีตัดกับสีของอาหารอย่างชัดเจน
จากผลการวิจัยผู้บริโภคในปี 2012 พบว่า สีของจานชามก็มีความสำคัญในการลดน้ำหนักเช่นกัน เพราะความคล้ายกันระหว่างสีของอาหารกับสีของจาน ทำให้สมองถูกหลอกว่ายังตักอาหารไม่พอ ต้องตักเพิ่มขึ้นไปอีก
ดังนั้น ถ้าจะกินอาหารสีแดงๆเช่น ซุปมะเขือเทศ หรือแกงเผ็ด ก็ควรที่จะตักอาหารใส่จานสีขาวแทนจานสีแดงให้สีตัดกันอย่างชัดเจนจะดีกว่า
3. เลือกสีผ้าปูโต๊ะให้เข้ากับจานอาหาร
จากผลวิจัยผู้บริโภคกล่าววว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการควบคุมสมองของเราสีนั่นเอง คล้ายๆกับข้อที่แล้วเลยค่ะ เมื่อเราเลือกสีของผ้าปูโต๊ะให้เข้ากับสีของจานชาม จะทำให้เรารับประทานอาหารได้น้อยลง เพราะเราจะเห็นปริมาณอาหารที่ชัดเจนขึ้น
4. ถ้าอยากขนมเมื่อไหร่ ให้ทานขนมซองเล็กๆพอ
การกินขนมช่วงลดความอ้วนไม่ใช่ว่าทำไม่ได้เลยนะคะ ถ้าเราเลือกทานให้เหมาะสม น้ำหนักก็จะลดแถมยังได้ทานของอร่อย วิธีนี้ทำได้โดยเลือกขนมถุงขบเคี้ยวถุงเล็กๆแทนขนมถุงใหญ่
เมื่อเราทานขนมให้หมดถุงสมองก็จะคิดว่า นี่ไงได้กินหมดถุงแล้ว พอแล้ว แต่ลองนึกดูว่าถ้ากินขนมถุงใหญ่ กว่าจะกินหมดก็ได้รับพลังงานไปไม่รู้เท่าไหร่ อย่างนี้อ้วนขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
แต่ขอแนะนำให้ดูฉลากโภชนาการข้างถุงด้วยนะ เลือกอันที่แคล 100 นิดๆก็พอ อย่าให้เกินไปกว่านั้น อย่าลืมดูว่า 100 นิดๆนี่หมายถึงทั้งถุงหรือครึ่งถุงด้วยนะ ดูให้ละเอียดค่ะ
5. อย่าทานอาหารหน้าคอมพิวเตอร์หรือทีวี
จากผลการศึกษางานวิจัยปี 2007 ในวารสาร American Journal of Clinical Nutrition พบว่า ยิ่งเราเสียสมาธิในการกินมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งกินมากขึ้นเท่านั้น
ทางด้านนักวิจัยยังรายงานว่า รับประทานอาหารขณะอยู่ในวงไพ่ จะไม่รู้สึกอิ่มสักนิดแม้จะทานอาหารในปริมาณที่มากกว่าผู้ที่ไม่ได้เล่นอะไรเลย
โดยผู้ที่เล่นไปด้วยกินไปด้วยยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าก่อนหน้านี้ได้กินอะไรลงไป นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่มีสมาธิในการกิน จึงทำให้ทานอาหารได้เพิ่มมากขึ้น และแน่นอนว่าการทำแบบนี้จะทำให้อ้วนง่ายขึ้น
6. เก็บอาหารให้พ้นมือและสายตา
ความสะดวกสบายในการไปหยิบอาหารและการมองเห็นอาหาร มีผลต่อการรับประทานอาหารของเราอย่างมาก ซึ่งจากผลการวิจัยในปี 2007 ในวารสารสาธารณสุข พบว่า เมื่อนักวิจัยได้ลองนำชามที่ใส่ลูกอมช็อกโกแลตไปวางบนโต๊ะ และเอาไว้ในลิ้นชัก
จะเห็นได้ว่า ในขณะที่ผู้คนจะลุกออกจากโต๊ะ พวกเขาจะยื่นมือไปหยิบช็อกโกแลตที่วางอยู่บนโต๊ะ แต่กลับไม่หยิบช็อกโกแลตที่วางอยู่ในลิ้นชัก ซึ่งห่างจากตัวเพียงแค่ 2 เมตร เท่ากัน
นั่นเป็นผลมาจากความสะดวกสบายและการมองเห็น จึงมีโอกาสที่จะหยิบง่ายกว่า ดังนั้น หากใครที่ไม่อยากทานขนมหวานเหล่านี้ให้น้ำหนักเพิ่ม ก็จงเก็บมันเอาไว้ให้อยู่ห่างจากมือและเก็บให้พ้นหูพ้นตาซะ
7. เลือกดื่มแอลกอฮอล์จากแก้วทรงสูง
จากผลการศึกษาวิจัยในปี 2005 ในวารสารการแพทย์อังกฤษ หากใช้แก้วทรงที่มีขนาดเตี้ยและกว้าง จะทำให้เทเหล้ามากกว่าปริมาณที่ควรมากถึง 20% ถึง 30%
คนลดความอ้วนจริงๆแล้วก็ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว แต่ถ้าหากเลี่ยงไม่ได้จริงๆให้ดื่มแอลกอฮอล์ในแก้วทรงสูงจะดีกว่า
8.ใช้ส้อมที่มีขนาดใหญ่
แม้มันอาจจะฟังดูไร้สาระ แต่จากผลการวิจัยปี 2011 ในวารสารวิจัยผู้บริโภค พบว่าผู้ที่ได้รับการทดลองทานอาหารโดยใช้ส้อมขนาดใหญ่จะรับประทานอาหารได้น้อยกว่าคนที่ใช้ส้อมขนาดเล็ก
9. ลองจินตนาการถึงการทานอาหารจานโปรดของสาวๆดูสิ!
จากผลการวิจัยในปี 2010 จากวารสาร Science ได้รายงานว่า ถ้าหากเราลองจินตนาการว่ากำลังรับประทานอาหารโปรดก่อนที่เราจะทานมื้ออาหารจริงๆ จะทำให้เราทานอาหารได้น้อยลงอย่างไม่น่าเชื่อ
ซึ่งวิธีนี้ทางนักวิจัยบอกว่ามันจะไม่ได้ผลถ้าคิดแค่ภาพของอาหารโปรดในหัวเฉยๆ มันต้องมีการจินตนาการอย่างชัดเจนเราได้ทานอาหารโปรดของเราจริงๆ นึกถึงตั้งแต่ตักเข้าปาก เคี้ยว และสัมผัสรสชาติกันเลยทีเดียว
10. ตัดอาหารเป็นชิ้นเล็กๆ
ภาควิชาจิตวิทยาของมหาวิทยาลัย ในรัฐแอริโซนา ได้ทำการศึกษาว่า การตัดอาหารเป็นชิ้นเล็กๆ สามารถหลอกสมองของเราให้คิดว่ารับประทานอาหารได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ดังนั้นจะทำให้เราทานได้น้อยลง
นอกจากนี้ ทางนักวิจัยยังได้ให้นักเรียนกว่า 301 คน ให้ทานเบเกิลขนาด 82 กรัม โดยจะสามารถทานทั้งชิ้นแบบไม่ตัดแบ่ง หรือจะตัดแบ่งเป็น 4 ชิ้นก็ได้ และหลังจากที่พวกเขากินเบเกิลเท่าที่ต้องการแล้ว พวกเขาจะได้ทานอาหารกลางวันฟรี
สุดท้ายเมื่อมาวัดปริมาณอาหารที่นักเรียนเหล่านั้นกินไป นักเรียนที่กินเบเกิลทั้งชิ้นโดยไม่ได้ตัดแบ่จะได้รับปริมาณแคลอรี่ที่มากกว่านักเรียนที่ตัดแบ่งเบเกิลออกเป็น 4 ชิ้นอย่างชัดเจน
เห็นมั้ยคะว่าการลดน้ำหนักโดยการลดปริมาณอาหารนั้นไม่ได้ยากเย็นเลยหากใช้วิธีตามหลักวิทยาศาสตร์ จะเป็นขนมหรือแอลกอฮอล์ถ้าอดไม่ได้อยากทานจริงๆก็สามารถทานได้ ถ้าทานในปริมาณที่เหมาะสม จำไว้ว่าลดน้ำหนักต้องเดินทางสายกลาง ร่างกายก็จะไม่โหย แถมได้หุ่นสวยๆมาเชยชมอีกด้วยล่ะ