ถ้าพูดถึงรองเท้ากีฬา แบรนด์ Nike ก็ถือเป็นแบรนด์ดังอันดับต้นๆเลยที่สาวๆเลือกซื้อเลือกใช้ แต่ด้วยความนิยมที่มันเพิ่มมาก ทำให้ของปลอมก็ออกมาเกลื่อนตลาดเช่นเดียวกัน ถ้าไม่อยากจะพลาดเสียเงินมากมายแล้วได้ของปลอม เรามาดูวิธีการแยกแยะรองเท้ากันดีกว่าค่ะ!!
ในกรณีที่สาวๆสั่งซื้อออนไลน์
ปัจจุบันนี้การช็อปปิ้งออนไลน์ก็เป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะมันสะดวกมากๆ แค่เลือก จ่ายเงิน แล้วก็รอรับของได้เลย แต่เพราะเราไม่ได้เห็นสินค้าจริงๆ จึงเสี่ยงมากที่จะได้ของปลอม การเลือกซื้อรองเท้า Nike ออนไลน์จึงต้องเลือกอย่างละเอียดดังนี้ค่ะ
1. ตรวจสอบผู้ขายให้แน่ชัด
ตรวจสอบเรตติ้งและรีวิวของร้านค้าและผู้ขายนั้นๆ ว่ามีชื่อเสียงด้านลบหรือมีคำกล่าวว่าร้านนี้ขายของปลอมบ้างรึเปล่า แต่ถ้าคำรีวิวของลูกค้าแลดูเชื่อถือไม่ได้ (หลายๆร้านก็ปิดรีวิวแย่ๆ แล้วแสดงแต่รีวิวดีๆ) ก็ให้เลือกร้านที่มีนโยบายการคืนของภายในเวลาที่กำหนดจะดีกว่าค่ะ เผื่อว่าได้ของปลอมมาจะได้เอาคืนได้
2. เลือกร้านที่ถ่ายรูปรองเท้าเอง
การที่ร้านค้าใช้รูปที่เซฟๆกันมาจากในอินเตอร์เน็ตก็อาจเป็นสัญญาณว่าร้านนี้ไม่ได้มีสินค้าในสภาพนั้นๆจริงๆ ทางที่ดีสาวๆควรจะเลือกร้านที่มีการจัดถ่ายรูปเอง หรือจะขอให้ผู้ขายถ่ายรูปสินค้าจริงแล้วส่งมาให้ดูก่อนก็ได้ค่ะ
3. เลี่ยงร้านค้าที่อ้างว่า “สินค้าทดลอง”
รองเท้า Nike ที่เป็นทดลองจะมีเพียงไซส์ 9,10,11 สำหรับผู้ชาย, 7 สำหรับผู้หญิง, และ 3.5 สำหรับเด็กเท่านั้น นอกจากนี้รองเท้า Nike ยังไม่มีรุ่นปรับแต่ง (Custom/ Variant) อีกด้วยนะ ถ้าร้านค้าอ้างแบบนี้ แปลว่าปลอมชัวร์
4. อย่าหลงเชื่อร้านที่ตั้งราคาไว้ต่ำกว่าราคาจริงมากๆ
ถ้าราคาต่ำเกินกว่าครึ่งหนึ่งของราคาจริง หรือสูงกว่าราคาจริงแล้วบอกว่าต่อรองได้ทีละมากๆ นั่นเป็นไปได้ว่ารองเท้าของร้านนั้นเป็นของปลอมค่ะ นอกจากนี้ถ้าหากระยะเวลาในการส่งของนั้นยาวนาน นั่นอาจแปลว่ารองเท้าถูกส่งมาจากประเทศจีน ซึ่งโอกาสปลอมก็สูงเช่นเดียวกัน
ถ้าสาวๆต้องการสั่งรองเท้า Nike จากเว็บไซต์จริงๆ ขอให้เลือกร้านที่ไว้วางใจได้จะดีกว่า โดยอาจจะเลือกจากเว็บไซต์ของไนกี้โดยตรง หรือจะเลือกซื้อจากเว็บไซต์ที่ได้รับสิทธิ์จากไนกี้ก็ได้เช่นกันค่ะ
5. อย่าซื้อรองเท้าที่บอกว่า ‘พร้อมส่ง’ ทั้งๆที่ยังไม่ถึงวันวางจำหน่าย
ถ้าร้านค้าอ้างว่ามีสินค้าทั้งๆที่เว็บไซต์ทางการยังไม่เปิดวางจำหน่าย ให้คิดเลยว่าของปลอมชัวร์ๆ ซึ่งหลายๆคนมักจะหลงเชื่อว่าเป็นของจริงเพราะไม่มีสินค้าจริงมาให้เปรียบเทียบนั่นเอง
6. ตรวจสอบรองเท้าหลังจากที่ซื้อมาแล้ว
ถ้าได้รับสินค้าแล้วแต่ยังไม่มั่นใจว่าเป็นของจริงรึเปล่า สาวๆสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของ Nike แล้วเปรียบเทียบกับรูปภาพได้ หรือจะสอบถามจากเจ้าของร้านค้าที่เชี่ยวชาญก็ได้เช่นกันค่ะ
ในกรณีที่ไปลองที่ร้านค้าจริงๆ
1. ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์
รองเท้าจาก Nike ของจริงจะต้องอยู่ในกล่องที่แข็งแรง ไม่ใช่กล่องที่ติดกาวแบบลวกๆ และที่สำคัญรองเท้าไนกี้ของแท้ไม่ได้อยู่ในถุงพลาสติกนะคะ
2. ตรวจสอบสภาพรองเท้า
ให้สาวๆเปรียบเทียบรองเท้า Nike ที่มีอยู่กับรองเท้าที่เพิ่งได้มาใหม่ ถ้าคุณภาพต่างกันมากๆ นั่นแปลว่าของที่ได้มาใหม่เป็นของปลอม และอาจจะเสื่อมสภาพในไม่กี่การใช้งานค่ะ นอกจากนี้ รองเท้าไนกี้ของแท้จะนุ่มกว่า และสีหม่นกว่าของปลอม เพราะว่าของแท้จะทำมาจากหนังจริง แต่ของปลอมจะทำมาจากหนังปลอมที่ย้อมสีนั่นเอง
อีกจุดที่ต้องดูก็คือบริเวณฝ่าเท้าของรองเท้าไนกี้ปลอมจะมีจุดที่เห็นได้ชัด เนื่องมาจากกระบวนการผลิตที่ไม่ถูกต้อง สุดท้ายก็คือดูเชือกผูกรองเท้าว่าสอดมาครบทุกรูหรือไม่ เพราะรองเท้าปลอมจะสอดเชือกมาแบบข้ามรูนั่นเอง
3. ตรวจสอบเลข SKU ของรองเท้าและบนกล่อง
เลข SKU ของรองเท้า Nike ของแท้นั้นจะตรงกับเลขบนกล่องเสมอ นอกจากนี้สาวๆต้องตรวจสอบปีที่ผลิตของรองเท้ารุ่นนั้นๆด้วย ว่าผลิตในปีตรงกับปีที่วางจำหน่ายรึเปล่า บางครั้งรองเท้าของปลอมก็เขียนไว้ว่าผลิตในปี 2005 ทั้งๆที่จริงๆแล้วรองเท้าออกมาในปี 2010 นั่นเอง
4. ลองสวมดู
พื้นยางของรองเท้า Nike ปลอมจะก๊องแก๊ง ดูเป็นพลาสติก และไม่มีลูกดอกมากพอ ในขณะที่ของจริงจะใช้ยาง BR1000 ในการผลิตพื้นรองเท้า และรองเท้า Nike ของปลอมจะมีขนาดไม่ตรงกับไซส์ ก็คือจะเล็กกว่าไซส์จริงที่บอกไว้นั่นเองค่ะ
นอกจากนี้ยังมีจุดที่สาวๆต้องตรวจสอบอีกดังนี้ค่ะ (ในกรณีของรุ่น Flyknit Racer)
1. กล่องของรองเท้า
กล่องของรองเท้ามักจะเป็นเนื้อด้าน คือจะไม่มีความมันวาวหรือเงาใดๆค่ะ
และการจัดวางตัวอักษรและตารางบนกล่องจะต่างกันอีกด้วย ถ้าเป็นของจริง ตัวอักษรจะใหญ่สมส่วมกับช่องว่างในตารางค่ะ
2. ป้ายไซส์บนลิ้นรองเท้า
สาวๆสามารถแยกของจริงและของปลอมได้โดยดูที่การจัดวางตัวอักษรเช่นเดียวกันค่ะ แต่ถ้าจะให้ชัวร์ให้สังเกตตรงคำว่า “nikebetterworld.com” และ “Made in Vietnam” ค่ะ จะเห็นได้ว่าของจริงติดกันมากกว่า
3. พื้นรองเท้า
คำที่เขียนไว้บนพื้นรองเท้าของปลอมจะค่อนข้างเอียง และหลุดลอกได้ง่ายกว่าค่ะ และคำบนรองเท้าของปลอมจะห่างกันเล็กน้อย (สังเกตที่ตัว N และ G)
4. สันรองเท้า
สันรองเท้าของจริงจะเย็บแบบสมมาตรมากกว่า และแน่นกว่า ในขณะที่ของปลอมจะเดินด้ายแบบค่อนข้างยู้ยี่ ไม่เป็นระเบียบ และห่างกัน
5. ด้านข้าง
จากรูป จะเห็นได้ว่าบริเวณส้นเท้าของรองเท้าของจริงจะมีความโค้งเว้ามากกว่า ในขณะที่ของปลอมจะเชื่อมพื้นยางไปกับส้นเท้าเลยนั่นเองค่ะ
6. ปลายเท้า
สำหรับรองเท้าของจริงนั้น จะเจาะรูที่กว้างกว่าและสังเกตเห็นได้ชัดกว่าค่ะ
อย่างที่บอกไปแล้วว่าคงไม่มีใครอยากจ่ายเงินราคาแพงเพื่อได้รองเท้าของปลอมมา เพราะฉะนั้นสาวๆ อย่าลืมตรวจสอบรองเท้าและร้านค้าให้แน่ชัดก่อนนะคะ ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวได้ของปลอมมาแล้วเสียดายเงินแย่เลย..
แปลและเรียบเรียงโดย raraROBYN