ถ้าเราเดินเล่นตามตลาดนัด เราก็จะเห็นแผงลอยมากมายที่ขายเครื่องสำอางยี่ห้อดังในราคาถูกเกินควร ซึ่งนั่นทำให้เรารู้ได้แน่ๆว่ามันเป็นของปลอม แต่ถ้าไปเลือกซื้อในร้านที่อ้างว่าหิ้วมาล่ะ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าของชิ้นนั้นไม่ได้โดดย้อมแมวมาขาย?! มาดูวิธีแยกต่อไปนี้เลยค่ะ
ราคา
ถ้าราคาของเครื่องสำอางถูกกว่าราคาที่วางขายในเคาท์เตอร์ของแบรนด์มากๆ ให้คิดไว้ก่อนเลยค่ะว่าอาจจะเป็นของปลอม ซึ่งสาวๆอย่าตกเป็นเหยื่อของราคาแสนถูกอันนี้เด็ดขาด ถ้าไม่มั่นใจหรือไม่มีใบรับรองใดๆ ให้สาวๆปล่อยผ่านแล้วเลือกซื้อจากเคาท์เตอร์ดีกว่าค่ะ ราคาอาจจะแพงกว่านิด แต่ได้ของจริงแน่นอน
คำอธิบายผลิตภัณฑ์
ของปลอมส่วนใหญ่มักไม่มีหมายเลขบาร์โค้ด เขียนคำผิดแกรมม่า หรือเขียนมั่วมากๆ จนอ่านไม่รู้เรื่องไปเลย หรือแม้ว่าจะมีบาร์โค้ด แต่บาร์โค้ดนั้นก็จะดูปลอมอย่างสังเกตเห็นได้ชัดเจนนั่นเองค่ะ
ตัวอักษรและสีที่ใช้
ตัวอักษรที่ใช้กับเครื่องสำอางของปลอมย่อมเป็นตัวอักษรที่ดูไม่ค่อยจะมีรสนิยมสักเท่าไร คือเป็นตัวอักษรที่หาได้ง่ายๆ เพียงแค่เปิดโปรแกรมเวิร์ดก็เจอแล้ว ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก ส่วนสีที่ใช้ก็อาจจะดูจัดจ้านเกินไปหรือซีดจางเกินไป ไม่ได้ดูเข้ากันดีเหมือนของจริงนั่นเองค่ะ
บรรจุภัณฑ์
ถ้าสาวๆเคยมีเครื่องสำอางของแท้ผ่านมือมาบ้าง สาวๆก็จะสามารถสังเกตได้โดยง่ายว่าเครื่องสำอางชิ้นนั้นๆเป็นของจริงหรือไม่ แต่ถ้าหากไม่เคยจับต้องเครื่องสำอางชิ้นนั้นๆมาก่อน ก็ให้สังเกตจากวัสดุที่ใช้ค่ะ ถ้าเป็นพลาสติกก๊อกแก๊กแต่ชื่อแบรนด์หรูมาก ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าอาจจะเป็นของปลอม
อื่นๆ
นอกจากที่บอกไว้ข้างต้นแล้ว ยังมีสิ่งที่สาวๆต้องสังเกตไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกลิ่น มีกลิ่นแปลกหรือเพี้ยนรึเปล่า หรือทรงลิปสติกผิดรูปมั๊ย หัวแปรงมาสคาร่าเบี้ยวรึเปล่า หรือเนื้อลิปกลอสดูหนืดข้นเกินไปมั๊ย หรือที่เราเคยเจอจะเป็นเขียนชื่อเมืองกับชื่อประเทศเป็นคนละขั้วโลก (เช่น Seoul, London) ถ้าเจอแบบนี้ให้คิดไว้เลยว่า “ปลอม” แน่ๆ!!
ถึงแม้ว่าการซื้อเครื่องสำอางจากร้านรับหิ้วจะถูกกว่าการซื้อเครื่องสำอางจากเคาท์เตอร์ของแบรนด์ แต่ก็มีหลายๆร้านที่ยังคงย้อมแมวเอาเครื่องสำอางปลอมมาขายเป็นเครื่องสำอางจริง ซึ่งถ้าสาวๆไม่เซียนในการแยกแยะจริงๆ เราขอแนะนำว่าให้เลือกซื้อจากเคาท์เตอร์เลยดีกว่า หรือถ้างบไม่พอจะซื้อของแบรนด์อื่นๆที่ถูกกว่าก็ดีเหมือนกันนะ!!
แปลและเรียบเรียงโดย raraROBYN
ที่มา alldaychic
