สวัสดีค่ะสาวๆที่อยากผอมทั้งหลาย วันนี้เราจะมาเล่าถึงประสบการณ์การลดน้ำหนักของคุณเก่ง ซึ่งเคยหนักเกือบ 125 กิโลกรัม และลดลงมาเหลือ 60 กิโลกรัมภายใน 6 เดือนเท่านั้น หวังว่าเรื่องของ”พี่เก่ง”จะเป็นแรงบัลดาลใจให้ใครหลายๆคนตั้งใจลดความอ้วนกันนะคะ
เริ่มจากชีวิตในตอนเด็กพี่เขาก็เป็นเด็กอ้วนมาตลอด แล้วก็เริ่มกลายเป็นนักกินมาตั้งแต่เด็ก วีรกรรมพี่เขาก็เช่น กินบะหมี่พิเศษ 7 ชาม , ก๋วยเตี๋ยวเรือ 30 ถ้วย , พิซซ่า 2 ถาดใหญ่ , เค้ก 2 ปอนด์รวดเดียว , บุฟเฟ่ต์ในปริมาณที่พนักงานยังแอบมองหน้า จึงทำให้เป็นที่มาของน้ำหนัก 125 กิโลกรัมที่ว่านั่นแหละค่ะ
พี่เค้าก็เคยไปตรวจสุขภาพนะคะ ผลก็ออกมาว่าเป็นหลายโรค ปวดข้อ หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย ซึ่งไม่ต้องบอกก็พอเดาได้ว่าสาเหตุมาจากความอ้วน และสาเหตุที่พี่เก่งคิดจะลดความอ้วนจริงๆก็มีหลายอย่าง ดังนี้
1. หมอถามว่า ” คุณจะลดความอ้วน หรือคุณจะตายเพราะความอ้วน “
2. โดนสาวที่ชอบและพยายามจีบ 8 ปี ปฏิเสธ
3. ตอนสอบสัมภาษณ์เข้ามหาลัยโดนอาจารย์ที่เป็นกรรมการพูดว่า ” ไปลดความอ้วนมาซะถ้าคุณยังอยากจะเรียนที่นี่ ถ้าลดได้ผมก็จะรับพิจารณาคุณ “
4. พ่อ แม่ โดนญาติๆและเพื่อนๆต่อว่าเรื่องที่เลี้ยงลูกไม่ดี เลี้ยงตามใจ
5. สังคมรอบข้างล้อและดูถูก
6. ทนสารรูปตัวเองไม่ไหว หาเสื้อผ้าใส่ก็ยาก เวลาอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆนี่แบบอ๊ายอาย คนอื่นหน้าตาดีแต่เรานี่อัปปรีย์อยู่คนเดียว
เหตุผลเหล่านี้คือแรงผลักดันที่ทำให้พี่เขาฮึดสู้ ลุกขึ้นมากระโดดออกจาก comfort zone อย่างจริงจัง
เข้าสู่ขั้นตอนวางแผนและปฏิบัติค่ะ
ในช่วงแรกพี่เขาก็มั่วไปเรื่อย ลองผิดลองถูกจนชำนาญ เช่น ออกกำลังกายและคุมอาหารแบบมหาโหด คือกินเพียง 500-1000 kcal ต่อวัน ซึ่งพี่เค้าก็บอกว่าอย่าไปทำเลย เพราะทั้งทำลายสุขภาพ และทำให้ร่างกายทุดโทรม อีกทั้งการ งดมื้อเย็นก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ มันได้ผลในระยะสั้นก็จริงแต่ไม่คุ้มค่าในระยะยาวเลย พี่เขาลดได้ถึง 10-12 กิโล ต่อเดือนเลยทีเดียว ทั้งนี้ ไม่พึ่งยา หรือศัลยกรรมใดๆ มีแต่หัวใจล้วนๆ
และนี่คือสภาพ จาก 125 กก. เหลือ 65 กก. ภายในเวลา 5 เดือน
ต่อมาก็เป็นช่วงที่พี่เค้าใช้คำว่า “ชดใช้กรรม” ค่ะ เพราะจากการออกกำลังกายที่ทำร้ายร่างกายทำให้ร่างกายทรุดโทรม และต้องใช้เวลาเยียวยานานถึง 3 ปีเลยทีเดียว ( สาวๆคนไหนที่คิดจะลดแบบง่ายฉาบฉวย ก็ระวังไว้นะคะ )
สิ่งที่พี่เค้าต้องเจอนั้นน่ากลัวมาก มันไม่ใช่โยโย่เอฟเฟคค่ะ แต่มันคือโรคกลัวอ้วน หรือ Anorexia ทำให้กลายเป็นคนวิตกจริตเกี่ยวกับเรื่องอาหาร ร่างกายไม่รับสารอาหาร น้ำหนักไม่ยอมขึ้นเลยไม่ว่าจะกินเท่าไร ต่อมาก็มีความไม่อยากอาหาร กินเข้าไปรู้สึกคลื่นไส้ ปวดท้อง เบื่ออาหาร ความดันต่ำ ร่างกายขาดน้ำตาล
พี่เก่งก็เลยต้องกลับมาศึกษาเรื่องโภชนาการ และการออกกำลังกายใหม่ เพื่อรื้อฟื้นร่างกายให้กลับมาดีเหมือนเดิมอีกครั้ง ซึ่งก็ทำให้พี่เค้าเข้าใจสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ก็เลยนำความรู้นั้นมาใช้และพัฒนาตนเองเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นแบนี้
ในปี 2014 พี่เก่งก็ได้ถูกเชิญไปออกรายการต่างๆ เช่น เป็นพิธีกรในช่วงทำอาหารสุขภาพของรายการ สูงวัยกำลังดี ทางช่องทรูปลูกปัญญา เป็นแขกรับเชิญในรายการ เรื่องบันดาลใจ ทางช่องโมเดิร์นไนน์
แต่ก็ยังไม่พอ พี่เค้าก็ยังอยากที่จะรูปร่างดีกว่านี้ จึงเริ่มที่จะเพิ่มกล้ามเนื้อมาให้ได้ที่ประมาณ 70-75 กก
รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย ทางช่องโมเดิร์นไนน์ ก็มาติดต่อพี่เค้าไปออกรายการด้วยนะคะ
พี่เก่งไม่เคยคาดฝันว่าตัวเองจะมาถึงจุดๆนี้ได้ มันเป็นความสำเร็จที่พี่เค้าไม่ได้คาดไว้ และจะพยายามฟิตร่างกายไปเรื่อยๆให้ได้ตามเป้าหมายที่พี่เค้าต้องการค่ะ
พี่เค้ายังแนะนำวิธีลดน้ำหนักอย่างถูกต้องมาให้ด้วยนะคะ
Step 1
– สร้างแรงจูงใจที่เด่นชัดในการลดความอ้วน
– วางแพลนชีวิตและการออกกำลังกายให้ดี มีกติกาและกฏให้กับตัวเอง
– ถ้าคิดว่าลดคนเดียวไม่ไหว ก็หาแนวร่วมที่จะฟันฝ่ามรสุมทะเลไขมันไปกับเรา
Step 2
– ลดปริมาณอาหารลงให้อยู่ในขนาดที่พอดี เช่น จากข้าว 1 จานพูนๆก็เหลือสักครึ่งจาน / จากชอบกินบุฟเฟ่ต์ก็ให้เน้นกินอาหารเป็นมื้อเดี่ยวๆแทน
– ลดอาหารที่เป็นพวก หวาน มัน เค็ม ทอด ขนม จั๊งค์ฟู้ด น้ำอัดลม
– ห้ามใช้วิธีอดอาหาร
– ศึกษาเรื่องการกินเพื่อสุขภาพให้มากขึ้นแล้วปฏิบัติตาม
– ศึกษาเกี่ยวกับโภชนาการให้มากขึ้น
Step 3
– ศึกษาเรื่องการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆแล้วปฏิบัติตาม และการออกกำลังกายแบบ เวทเทรนนิ่ง + คาร์ดิโอ จะเห็นผลไวสุด
** กฏบังคับ **
– ถ้าไม่รู้ก็ให้ถามผู้รู้
– มีวินัยกับตัวเอง อย่าผลัดวันไปเรื่อยๆ
– หยุดวาดภาพว่าสักวันฉันจะหุ่นเป๊ะ ลุกขึ้นมาทำเดี๋ยวนี้ แล้วเอารูปตัวเองในจินตนาการแปะข้างฝาบ้านไว้เป็นเป้าหมายซะ
** ข้อแนะนำ **
– การกินอาหารเพื่อสุขภาพนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าลืมศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับภาวะต่างๆด้วย เช่น การกินอาหารคลีนนั้นเป็นสิ่งที่ดีค่ะ แต่ไม่เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด – เด็กม.ต้น เนื่องจากจะทำให้เด็กไม่มีภูมิต้านทานต่ออาหารปกติทั่วไปและอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เป็นต้น
– การออกกำลังกายจริงจังนั้นดี แต่หากหักโหมมากเกินจะส่งผลเสียต่อร่างกายและมวลกล้ามเนื้อได้
และนี่ก็เป็นตารางการออกกำลังกายของพี่เค้าค่ะ
Warm up
– ยืดกล้ามเนื้อ 10 นาที
Biceps
– Dumbbell Curl 5 set ( 12 ครั้ง / set )
– Hammer Curl 5 set ( 12 ครั้ง / set )
Triceps
– Bench Dip 5 set ( 12 ครั้ง / set )
Chest
– Dumbbell Bench Press 5 set ( 12 ครั้ง / set )
– Dumbbell Fly 5 set ( 12 ครั้ง / set )
ABS
– V Crunches 5 set ( 10 ครั้ง / set )
– Side Crunches Each Side 5 set ( 10 ครั้ง / set )
– Leg Raises 5 set ( 10 ครั้ง / set )
– Knee Tuck Crunches 5 set ( 10 ครั้ง / set )
– Abdominal Crunches 5 set ( 10 ครั้ง / set )
– Bicycle Crunches 5 set ( 10 ครั้ง / set )
Legs
– Squat 50 ครั้ง
– Sumo Squat 50 ครั้ง
– Leg Lung 50 ครั้ง
– Hamstring Raise 50 ครั้ง
– Calve Raise 50 ครั้ง
– Twist Leg Lung 50 ครั้ง
Cardio
– เดินบนลู่วิ่งความเร็วระดับ 5 ความชันระดับ 11 เวลา 40 นาที
อาหารการกิน
– Clean food 80% ขึ้นไป
และลิ้งค์เหล่านี้ก็เป็นเพจของพี่เก่งค่ะ
FB Group : Friends เพื่อนลดน้ำหนัก : https://www.facebook.com/groups/342256509259003/
FB Page : Healthy Hunger เพจอาหารคลีน : https://www.facebook.com/healthyhungerpage
(เพจส่วนตัวของพี่เค้าค่ะ) https://www.facebook.com/GengNutthapun
สุดท้ายนี้ก็จะขอทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่ใช้ในการลดน้ำหนักของพี่เก่งนะคะ และขอให้สาวๆทุกคนมุ่งมั่นตั้งใจนะคะ
” อย่ามีความสุข บนความทุกข์ของร่างกายตัวเอง “
เรียบเรียงโดย The Canary Bird
ที่มา pantip