หลายคนอยากได้รอยสักมาประดับเรือนร่างแต่ไม่กล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับปลายเข็ม แต่คุณไม่อยากรู้สักหน่อยหรอว่าการสักรอยสักมันเป็นยังไง?? เพื่อตอบความสงสัยของคุณ Girlsallaround.com ได้เอาความคิดเห็นของนักศึกษามหาลัย 4 คนเกี่ยวกับประสบการณ์การสัก แรงบันดาลใจในการสักไป จนถึงระดับความเจ็บในการรับการสักมาฝากสาวๆแล้ว ลองมาดูว่าพวกเค้าจะมีความคิดเห็นอย่างไรนะคะ!!
แรงบันดาลใจภายใต้รอยสักคืออะไร?
Jordan Sypek: รอยสักของฉันอยู่บนเท้าและเป็นรูปสัญลักษณ์ celthic-knot ฉันกับพ่อไปสักรอยนี้พร้อมกัน เราสองคนสนิทกันมาตั้งแต่ฉันยังเด็ก และฉันจะสักก็ต่อเมื่อมันมีความหมายเท่านั้น และลายนี้ก็เป็นลายที่เพอร์เฟคสำหรับฉันเลยค่ะ
Maya Dartiguenave: รอยสักที่ฉันชอบที่สุดคืออันที่สักเป็นคำพูดตามแผ่นหลังตามรอยกระดูกสันหลังของฉัน “You alone, are enough.” หรือ “คุณคนเดียวก็เพียงพอ” ซึ่งเป็นคำพูดของ Maya Angelou และเมื่อ Maya ได้เสียชีวิตในปีที่แล้ว ฉันรู้ว่าฉันต้องสักคำพูดนี้ลงบนตัวฉันให้ได้ เธอคือแรงบันดาลใจสำหรับฉันและครอบครัวของฉันอย่างมาก มากถึงขนาดพ่อแม่ตั้งชื่อฉันตามชื่อของเธอ!
Lisa Whittemore: รอยสักแรกของฉันคือรูปนกฟินิกซ์ฟื้นคืนชีพจากกองขี้เถ้าของมันเอง ความหมายของรอยนี้คล้ายคลึงกับการเสริมความมั่นใจให้กับตัวเอง ฉันมีรอยสักเยอะมาก และเวลาไปสักรอยใหม่ ฉันมักจะให้ความหมายของรอยสักนั้นเชื่อมโยงกับรอยเก่าที่ฉันได้สักมาก่อนแล้วและฉันมักจะเลือกรอยสักที่มีความหมายกับประสบการณ์ชีวิตของฉันเอง
Jen Morgan: รอยสักแรกที่ฉันสักอยู่บนข้อมือฉัน มันเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นตัวจากการบาดเจ็บในอดีตของฉันเอง ฉันอยากได้รอยสักมานานแล้ว และเมื่อฉันอายุถึงและหายจากการรักษาตัวถึงหนึ่งปีเต็มฉันถึงตัดสินใจสัก รอยสักฉันเขียนว่า “Love” เป็นตัวเขียนและมีท่อนคำพูดโปรดของฉันจากพระคัมภีร์ไบเบิลสักไว้ข้างล่าง
เลือกร้านสักยังไง?
Jordan: ฉันไปสักที่ร้านที่เพื่อนและญาติฉันเคยไปก่อน การขอคำแนะนำจากคนที่เคยไปร้านนั้นมาก่อนย่อมเป็นสิ่งที่ดี อย่าเลือกร้านที่ราคาถูก แต่เลือกเพราะมีชื่อเสียงที่ดี รอยสักจะประทับอยู่บนตัวคุณไปตลอด เพราะฉนั้นการเลือกร้านที่ถูกไว้ก่อนจึงไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ในกรณีนี้
Maya: ฉันมีรอยสักสองอัน ซึ่งฉันได้ทั้งคู่จากร้าน Florida Velvet โดยช่างสักที่ชื่อว่า Will ในรัฐฟลอริดา ฉันคิดนานมากว่าจะให้ใครสัก แต่ก็ตัดสินใจได้กับ Will เพราะฉันได้เห็นฝีมือที่เนี๊ยบของเขาตอนสักให้เพื่อนฉัน
Lisa: ร้านที่ฉันไปสักรอยสักแรกอยู่ในย่านเวนีซ แคลิฟอร์เนีย เป็นที่ที่สะดวกมาก แต่หลังจากนั้นฉันก็ได้คำแนะนำใหม่ๆจากช่างสักในช่วงตัดสินใจหาร้านใหม่ ตอนที่ฉันอยู่ที่ญี่ปุ่น ช่างสักที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งชื่อ Horiyoshi สักแขนขวาทั้งแขนโดยใช้เทคนิคไม้ไผ่กับเข็มสัก
Jen: เพื่อนฉันแนะนำร้าน Stingray Body Art ในบอสตันให้กับฉันเพราะเพื่อนของเธอสักที่นั่น ฉันก็เลยลองไปดู เมื่อฉันได้ลองเดินดูภายในร้าน ฉันรู้สึกสบายกับบรรยากาศภายในร้านมาก และฉันก็รู้เลยว่าต้องสักที่ร้านนี้ให้ได้ ฉันชอบประสบการณ์การสักครั้งแรกของฉันมากจนฉันต้องไปสักเพิ่มอีกสองถึงสามครั้งกับช่างสักคนเดิม
มันเจ็บสักแค่ไหนกันกับการสัก?
Jordan: มันก็เจ็บอยู่นะ แต่เพราะมันเป็นรอยสักแรกของฉัน ฉันก็ไม่รู้จะเอาไปเปรียบเทียบกับอะไร มันรู้สึกเหมือนมีอะไรมาข่วนแขนคุณแบบน่ารำคาญประมาณ 30 นาที ช่วงบนของเท้าคุณเป็นส่วนที่เซนซิทีฟเพราะว่าไม่ค่อยมีไขมันไปสะสมตรงนั้น แต่ยังไงคุณก็ทนได้แน่นอน ฉันเป็นคนขี้กลัวเมื่อต้องเจอกับเรื่องความเจ็บปวด แต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก
Maya: ความเจ็บนั้นเจ็บจริง แต่คุณก็สามารถเอาชนะได้ ลองหายใจลึกๆและอย่านึกถึงเข็มจะทำให้คุณสบายใจขึ้น
ฉันได้รอยสักทั้งสองลายในที่ที่เจ็บมาก นั่นคือบริเวณกระดูกซี่โครงและบริเวณกระดูกสันหลัง มันเลยเจ็บมากหน่อย ฉันอยากแนะนำว่าถ้าคุณรับมือกับความเจ็บปวดได้ไม่ค่อยดี ลองสักในบริเวณที่เจ็บน้อยกว่านี้ดูนะ
Lisa: มีบางบริเวณที่ที่จะเจ็บเป็นพิเศษและบางบริเวณที่ไม่เจ็บเลย ตอนสักที่น่องฉันไม่เจ็บเลย แต่บริเวณข้างโครงกระดูก ศอก และหลังส่วนล่างจะเจ็บ ฉันร้องไห้เลยล่ะตอนสัก
ความเจ็บมันจะมาตลอด มันเหมือนผิวหนังคุณโดนขูดด้วยปลายเข็มอยู่ตลอด แต่ก็น่าแปลกใจที่ตอนสักบนนิ้วมือฉันไม่เจ็บเลย และสิ่งที่น่ารำคาญที่สุดในการสักก็คือเสียงของเครื่องมือนั่นแหละ
Jen: คำถามนี้ตอบยากนะ แต่ฉันคิดว่าจะเจ็บหรือไม่เจ็บขึ้นอยู่กับความอดทนของคุณแล้วล่ะ ซึ่งฉันมีสูงมาก ฉันเลยชิวๆมากกับการสัก สำหรับการสักของฉัน พูดตามตรงฉันนั่งฟังเพลงของฉันแล้วก็หัวเราะกับเพื่อนตลอดเวลาในร้านสัก และก่อนฉันจะรู้ตัว ช่างก็สักเสร็จซะแล้ว
ฉันมักจะบอกหลายๆคนที่ถามว่า ‘ถ้าคุณอยากได้รอยสักมากๆแล้วล่ะก็ คุณจะไม่นึกถึงความเจ็บปวดเลย’ การอดทนความเจ็บแค่ชั่วโมงถึงสองชั่วโมงจะคุ้มค่ากับรอยสวยๆบนตัวคุณอย่างแน่นอน!
การสักมาใหม่ๆต้องการการดูแลเป็นพิเศษมั๊ย
Jordan: ช่างสักฉันให้ครีมมาทาบริเวณที่สักทุกๆวันเพื่อมันจะได้หายอย่างถูกวิธี และฉันก็ยังต้องอย่าให้รอยสักนั้นโดนแดดเป็นเวลา 2-3 อาทิตย์ เพราะจะทำให้รอยสักนั้นเลือนหายไปได้ ถ้าฉันไปเที่ยวทะเลฉันจะเอาเท้าฝังไว้ในทรายเพื่อแสงอาทิตย์จะได้เข้าไม่ถึง
Maya: การดูแลรอยสักใหม่เหมือนกับการการดูแลการเจาะร่างกาย ฉันต้องล้างมันบ่อยๆด้วยสบู่ฆ่าเชื้อและทาโลชั่นที่ไม่มีกลิ่นเมื่อบริเวณนั้นรู้สุกแห้งหรือคัน ช่างของฉันแนะนำให้หลบแดดและว่ายน้ำประมาณ 2 อาทิตย์ และไม่ต้องกังวลไปเวลาอาบน้ำ มันอาจดูเหมือนน้ำหมึกจะออกมากับน้ำ แต่ไม่หรอก ตัวหมึกดำๆมันจะหายไปเองอยู่แล้ว แต่รอยสักของคุณยังโอเคแน่นอน!
Lisa: มันจะเจ็บตอนแรก เพราะฉนั้นต้องล้างเบาๆ แต่อย่าขัดแรงๆนะ ล้างด้วยสบู่และน้ำตอนอาบน้ำ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนมันหายมัน และพยายามทำให้บริเวณที่สักชุ่มชื้น
Jen: คุณควรระวังและดูแลรอยสักคุณอย่างดีหลังจากสักมาใหม่ๆ! อย่าเพิ่งไปว่ายน้ำหรืออาบแดดในช่วงสองอาทิตย์แรก เพราะมันจะทำให้คุณหายช้าลงและทำให้รอยสักคุณเลือนหายไปเร็วขึ้นด้วย ฉันดูแลของฉันโดยปล่อยให้มันได้หายใจบ้าง ฉันพยายามไม่ให้เสื้อผ้าปิดแตะบริเวณนั้น และล้างรอยสัก 2 ครั้งต่อวัน และเมื่อฉันเริ่มจะหาย ฉันก็ล้างมันบ่อยขึ้นและใช้โลชั่นแบบไม่มีกลิ่นทาเพื่อความชุ่มชื้น
มีคำแนะนำสำหรับคนที่ไม่เคยสักมาก่อนแต่อยากสักมั๊ย?
Jordan: ต้องคิดดีๆก่อนสักนะ มันจะอยู่กับคุณตลอดไป และมันก็สำคัญที่จะเมคชัวร์ว่าลายที่คุณต้องการจะสักน่ะคุณชอบจริงๆ และคุณควรคำนึงถึงอาชีพของคุณให้ดีว่าเค้าอนุญาตให้คุณสักรึปล่าวน่ะ
Maya: คิดให้ดีก่อนสักละกัน เพราะถ้าตอนสักเจ็บมากอยู่แล้วตอนลบจะยิ่งเจ็บมากกว่า ต้องมั่นใจและพร้อมที่จะรักกับรอยสักของคุณ ฉันคิดว่าถ้าคุณมีรอยสักที่คุณคิดว่าคุณจะรักมันตลอดไปคุณจะลืมมันไปเลยจนกระทั่งได้ดูในกระจก แต่ถ้าคุณไม่พอใจกับมันคุณก็จะเสียใจทุกครั้งเมื่อคุณได้เห็นมัน
Lisa: ฉันคงอยากแนะนำว่าให้ลองศึกษาเกี่ยวกับร้านที่จะไปสักให้ดี ดูว่ามันเปิดมานานรึยัง แล้วลองดูว่าช่างสักมีประสบการณ์มายาวนานขนาดไหน และลองดูผลงานก่อนๆของพวกเขา และคุณก็คือคนตัดสินใจขั้นสุดท้าย แต่ฉันคิดว่าคุณอาจจะลองฟังคำแนะนำจากช่างสักของคุณดูบ้าง อย่างน้อยลองเอามาประกอบการประกอบการตัดสินใจดู
Jen: จงรู้ไว้ว่ามันเจ็บแน่นอน แต่มันคงไม่แย่มากเท่ากับที่คุณคิด ความเจ็บปวดนั้นจะคุ้มค่ามากกับกับความพอใจที่จะอยู่ไปชั่วชีวิตคุณ ความเจ็บมันก็อยู่แค่ช่วงสั้นๆแต่คุ้มค่าแน่นอนค่ะ
สาวๆที่อยากสักคงจะได้แนวทางกันมาบ้างจากผู้มีประสบการณ์แล้วนะคะ สำหรับสาวๆคนไหนที่อยากจะสักจริงๆ ขอให้ถามตัวเองดีๆก่อนนะคะว่าถ้าสักไปแล้วจะเกิดผลดีหรือผลเสียอะไรในชีวิตบ้าง หรือถ้าอยากเริ่มสักจริงๆแนะนำให้สักบริเวณในร่มผ้าก่อนดีกว่าค่ะ ส่วนความเจ็บนั้น ขอจงอดทนไว้ค่ะ แล้วผลลัพธ์ที่สวยงามมันจะเป็นของคุณ!!
แปลและเรียบเรียงโดย Mennhattan
ที่มา hercampus