สาวๆสมัยนี้บริโภคน้ำตาลกันอย่างแพร่หลายจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันสำหรับบางคนไปแล้ว!! และแน่นอนว่าน้ำตาลนั้นมีข้อเสียอยู่ด้วย การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปส่งผลเสียต่อสุขภาพมากๆเลยนะจ๊ะสาวๆ ถ้าอยากรู้ว่าส่งผลเสียยังไงบ้างลองติดตามกันนะจ๊ะ รับรองว่าจะต้องอ้าปากค้างแน่ๆ
1. น้ำตาลในรูปของเหลว
ขนมหวานไม่ใช่เป็นอย่างเดียวที่มีปริมาณน้ำตาลสูง แต่ยังรวมไปถึงน้ำหวานประเภทต่างๆ เช่น น้ำอัดลมและเครื่องดื่มชูกำลัง อีกด้วย สาวๆรู้มั้ยเอ่ยว่ามีน้ำตาลผสมอยู่ในเครื่องดื่มชูกำลังถึง 36% นั่นเท่ากับการทานไอศครีม 1 ถ้วยเลยนะ!!
2. น้ำอัดลมนี่แหละตัวดี
ได้เวลาเลิกนิสัยดื่มน้ำอัดลมได้แล้ว!! การดื่มน้ำอัดลมวันละ 1 กระป๋องนั้นเพิ่มอัตราความเสี่ยงต่อโรคหัวใจมากถึง 1 ใน 3 เชียวล่ะ!!
3. เพิ่มการทำงานให้ตับ
น้ำตาลฟรุกโตสเป็นที่นิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และน้ำตาลชนิดนี้ส่งผลเสียต่อตับไม่ต่างจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยนะจ๊ะ แต่น้ำตาลฟรุกโตสจากธรรมชาติ เช่นในผลไม้นั้นจัดว่าเป็นน้ำตาลที่ดี แต่ฟรุกโตสที่ผ่านกระบวนการผลิตเนี่ยสิที่จะส่งผลเสียกับร่างกาย
4. น้ำตาลจำแนกได้ถึง 61 ชนิด
ฟรุกโตส และ ซูโครส คือน้ำตาลที่เราใช้กันเป็นประจำ แต่ยังมีน้ำตาลอีกกว่า 59 ชนิดที่เราไม่คุ้นเคย จึงเป็นเรื่องง่ายมากเลยล่ะที่จะมองข้ามเวลาอ่านฉลากอาหาร
5. บริโภคน้ำตาลในปริมาณมากอาจนำไปสู่โรคอ้วน
โรคอ้วนในทางการแพทย์เป็นโรคเรื้อรังและรวมถึงความเสี่ยงโรค เช่นโรคหัวใจ เบาหวาน โรคตับ ความดันโลหิตสูง
6. ผู้หญิงบริโภคน้ำตาลเป็น 3 เท่าของบริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน
ปริมาณน้ำตาลที่ควรบริโภคในแต่ละวันไม่ควรจะเกิน 6 ช้อนโต๊ะหรือ 10% ของพลังงานที่บริโภค แต่เฉลี่ยแล้วสาวๆทานน้ำตาลในทุกรูปแบบมากถึง 19.5 ช้อนโต๊ะทุกวัน!!
7. ติดน้ำตาล
อาการติดน้ำตาลส่งผลต่อสมองคล้ายๆกับอาการของผู้ใช้สารเสพย์ติดประเภทโคเคนหรือดื่มเหล้าเลยทีเดียว!!
8. น้ำตาลที่แฝงมากับอาหาร
แค่ไม่ทานคุกกี้ หรือไอศครีมแค่นั้นก็พอใช่มั้ย? ไม่จ้า แค่นั้นไม่พอหรอก 74% ของอาหารในซุปเปอร์มาร์เก็ตนั้นมีน้ำตาลเป็นส่วนผสมทั้งนั้นแหละ สาวๆคิดว่าขนมปัง พาสต้าซอสไม่ได้ใส่น้ำตาลเป็นส่วนผสมหรอ? ไม่ได้อ่านฉลากล่ะสิ!!
9. ทานน้ำตาลมากๆนำไปสู่โรคร้ายอีกเพียบ
การบริโภคน้ำตาลและแป้งในปริมาณมาก จะเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งและลดอัตตรารรอดชีวิตลงด้วย!
สาวๆรู้ถึงผลเสียของน้ำตาลแบบนี้แล้วก็ควรลดการบริโภคน้ำตาลลงบ้างนะจ๊ะ เพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคตยังไงล่ะ
แปลและเรียบเรียงโดย The Canary Bird
ที่มา womenshealthmag