สาวๆหลายคนไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นโรคกินมากเกินไป กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็สายเกินแก้ซะแล้ว ลองมาดูอาการของโรคกินเยอะเกินไปกันดีกว่านะจ๊ะ เผื่อสาวๆมีอาการแบบนี้จะได้รู้ตัวยังไงล่ะ
1. รู้สึกอิ่มแล้วแต่ยังกินต่อ
จริงๆแล้วสาวๆควรหยุดกินตั้งแต่รู้สึกอิ่มประมาณ 80% แล้วนะ แต่หลายคนไม่ทำแบบนั้นน่ะสิ พยายามยัดๆมันเข้าไป แล้วสุดท้ายเป็นยังไง? ก็อ้วนน่ะสิจ๊ะ
2. รู้สึกอร่อยกับอาหารในทุกๆคำ
จริงๆแล้วอาหารสองสามคำแรกจะให้ความรู้สึกอร่อยที่สุดนะจ๊ะ แต่ถ้าสาวกินไปเรื่อยๆโดยยังคงคิดว่ามันอร่อยสุดๆ สาวๆก็จะหยุดกินไม่ได้ และกินต่อไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็ลุกไม่ขึ้นแล้ว
3. ร่างกายสั่งให้พัก
เมื่อไหร่ก็ตามที่กินๆไม่หยุดจนสุดท้ายมืออ่อนปวกเปียก ถือส้อมถือช้อนไม่ได้พร้อมนั่งถอนหายใจออกมาล่ะก็ นั่นเป็นคำสั่งจากร่างกายที่บอกว่าควรหยุดกินได้แล้ว!!!
4. เหงื่อออกตอนกินข้าว
ไม่รับของเผ็ดนะจ๊ะ เพราะเวลาร่างกายย่อยอาหารเนี่ยมันใช้พลังงานมากเลยนะเลยให้เรารู้สึกร้อนขึ้น ถ้าสาวเหงื่อออกทั้งๆที่ยังกินไม่เสร็จล่ะก็ นั่นก็แปลว่าสาวๆกินเยอะไปแล้วล่ะสิ
5. กางเกงคับขึ้น
เมื่อเช้ายังใส่ได้พอดีอยู่เลย ทำไมตอนนี้เหมือนมันจะปริแบบนี้ล่ะ? ก็เพราะเวลาที่กินเยอะๆพุงก็จะป่องน่ะสิจ๊ะ ไม่รู้จริงๆหรือแกล้งไม่รู้เนี่ย?
6. รู้สึกเหมือนจะตายหลังกินเสร็จ
ก็มันอึดอัดไปหมด ไม่มีแรงลุก ลุกไม่ไหว อยากจะนอนมันตรงนี้เลย ใช่เลยจ้ะ!! ถ้ามีอาการแบบนี้ก็แสดงว่ากินเยอะเกินไปแล้ว จริงๆหลังกินข้าวเราควรมีแรงนะจ๊ะ ไม่ใช่รู้สึกหมดแรงแบบนี้ ทางทีดีก็ถอยมาให้ห่างโต๊ะอาหารเลย แล้วนั่งเอนไปด้านหลังจะช่วยย่อยได้ดีขึ้นน้า
7. จานเดียวไม่เคยพอ
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นจานใหญ่ก็เถอะนะ แต่ท้องยังดังโครกครากอยู่เลย โอเคจ้ะ เติมได้แต่เน้นเป็นพวกผักผลไม้จะดีกว่านะ
8. วางช้อนส้อมเป็นคนสุดท้ายบนโต๊ะ
ถ้าคุณไม่ได้เป็นคนที่กินช้าขนาดนั้นล่ะก็ แสดงว่าคุณกินเยอะเกินไปแล้วล่ะ
บอกมาซะดีๆว่าตรงกับสาวๆกี่ข้อ? ถ้าเยอะล่ะก็รีบหยุดพฤติกรรมแบบนี้เถอะจ้ะ เดี๋ยวไซส์เปลี่ยนไม่รู้ตัวน้า
แปลและเรียบเรียงโดย The Canary Bird
ที่มา cosmopolitan