ยาวหน่อย แต่อ่านแล้วรับรองได้ข้อคิดดีๆแน่นอนค่ะ . . .
วันนี้ผมนายไม้มารับหน้าที่แทนน้องเกลบ้าง ผมมารับหน้าที่แทนก็อาจจะเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องความสวยงความงามและเรื่องผู้หญิงๆซักเท่าไหร่ เรื่องที่กำลังจะเขียนให้เพื่อนๆได้อ่านกัน เป็นเรื่องที่ผมมีแรงบันดาลใจจากน้องสาวที่รู้จักกัน เธอกำลังกลุ้มใจ ครุ่นคิดวุ่ยวายอยู่กับความรักของเธอแล้วมาปรึกษาผม
ซึ่งความรักขอน้องสาวคนนี้กับแฟนที่เธอกำลังคบกันดูท่าจะไปไม่รอด เหมือนกับเป็น “โรคร้าย” ซักโรคอยู่ ผมเลยให้คำปรึกษาน้องไป (และบอกน้องว่า น้องเอ๊ย พี่ก็ไม่ได้ไปเก่งเรื่องความรักมาจากไหน 555)
และนั่นก็ทำให้ผมอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่กำลังจะแย่ลงแต่เราหลายๆคนมักจะไม่ทันสังเกต จนสุดท้ายก็อึดอับรับไม่ได้และระเบิดมันออกมา
ทุกๆคนมักต้องประสบพบเจอกับความรักความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดี หลังจากช่วงเวลา แห่งความสนุกตื่นเต้น หลงไหล และ ความตื่นเต้นจากช่วงวันเวลาแห่งการ ออกเดทได้สิ้นสุดลง
แต่เพราะทุกอย่างยังคงขุ่นมัว เราก็เลย ต้องอยู่กับมันมาเป็นเวลาแสนนานจนกว่าที่ที่เราจะมองออกว่าความสัมพันธ์ที่เรามีนั้นจริงๆมัน “ไม่ดี” เลยซักนิด
วันนี้ ผมนายไม้และ Girlsallaround.com มีสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังมีความสัมพันธ์ที่มี โรคร้ายเรื้อรังเกาะกินอยู่ ให้เราไปสังเกตดูว่าเรากำลังมีมันอยู่หรือไม่
นี่ไม่ได้ให้เราไปบอกเลิกกับเขานะคะ แต่มันอาจจะทำให้เราเข้าใจและได้เริ่มเปลี่ยนแปลง พูดคุยกับเขา และปรับความเข้าใจกันก่อนที่มันจะแย่ลงไปกว่านี้ ไปดูกันเลยคะ
1. คุณรู้สึกว่าทำอะไรก็ผิดไปหมด
มีคนบางคนกำลังทำให้คุณรู้สึกไม่ดี และตกต่ำ ตัวตนที่คุณเป็นกำลังถูกเขาคนนั้นเยาะเย้ยให้คุณรู้สึกอับอายได้ตลอดเวลา
คุณได้แต่รู้สึกผิด รู้สึกเสียใจตลอดเวลาที่เมื่อมีคนกำลังวิพากษ์วิจารณ์นิสัย และตัวตนของคุณจริงๆ
ซึ่งการดูถูกเหยียดหยามแบบนี้จะทำให้พลังความมั่นใจและกำลังใจที่คุณมีหดหายไป
2. ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับ “เขา” ไม่ใช่ “คุณ”
“เออใช่ ฉันก็รู้สึกอย่างนั้น” “ฉันว่าฉันก็เคยเป็นนะ” แต่ เอ๊ะ! ทำไมคู่หูคู่รักของคุณ ไม่เคยได้ยินมัน หรือว่าเขาไม่
เคยคิดจะ “ฟัง” มันกันแน่
เขาไม่เคยยอมรับ รับฟังและเคารพใน ความคิดเห็นของคุณเลย
บทสนทนาที่คุณกำลังคุยอยู่มันมาจาก “เขา” เพียงคนเดียว แม้บางครั้งที่คุณได้แลกเปลี่ยนหรือแชร์ประสบการณ์กับเขา เขาก็ฟังคุณบ้าง แต่สุดท้ายเขาก็วกกลับเข้าไปในเรื่องที่ “เขา” อยากจะพูดอีกครั้ง – ฟังกันบ้างสิเอ้อออ
3. คุณไม่ได้ใช้ “ช่วงเวลาแห่งความสุข” ร่วมกัน
ทุกๆวันช่างเป็นเวลาที่แสนยุ่งยากอะไรอย่างนี้ เขาพยายามที่จะบังคับควบคุมการกระทำและความสุขของคุณ
เขาปล่อยคุณไว้ที่กับความทุกข์เดิมๆ และ ความคิดแง่ลบที่เขามีซึ่งเขาไม่เคยที่จะยอมรับมัน
4. คุณรู้สึกไม่สบายใจที่จะเป็นตัวของตัวเองเวลาที่อยู่กับเขา
คุณรู้สึกไม่มีอิสระที่จะต้องพูดความคิดของตัวเองออกไปเวลาที่อยู่กับเขา
คุณได้แต่สวมหน้ากากเป็นอีกคนหนึ่งเพื่อให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับของเขา
จนบางครั้งนี่อาจจะทำให้คุณลืมไปแล้วว่าตัวตนที่แท้จริงของคุณเป็นอย่างไร และ ความรู้สึกความสัมพันธ์ที่คุณกับเขามีร่วมกันมันไม่ใช่เพื่อนหรือครอบครัวอีกแล้ว
5. คุณรู้สึกว่าตัวเองไม่เติบโตและไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
เมื่อใดก็ตามที่คุณตั้งใจและตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตและพัฒนาเปลี่ยนแปลงตัวเอง กลับมีคนบางคนที่ล้อเลียนและไม่เคยเชื่อมั่นในสิ่งที่คุณตั้งใจจะทำ ไม่เคยให้ความสนับสนุนกำลังใจในความพยายามของคุณเลย
มากไปกว่านั้นเค้ายังคิดแต่จะทำให้คุณย่ำอยู่กับที่ไม่พัฒนาไปไหน ไม่ยอมให้คุณเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมซะด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ภาษาและถ้อยคำที่ผมใช้อาจจะรุนแรงและอาจจะทำให้เกิดแง่ลบมากมายต่อคนที่คุณรัก แต่นั่นก็ไม่เสมอไปนะคะ ผมไม่ได้ต้องการให้หนุ่มๆ สาวๆ ต้องเลิกราจากกันนะคะ
แต่คนเราควรมีการปรับเปลี่ยน ปรับปรุง เพื่อให้มีอนาคตที่ดีขึ้น ถึงไม่ได้เลิกรา แต่เราก็อาจจะนำไปปรับไปคุยกันนะคะ เพื่อที่จะประคับประคองความรักของเราให้ยาวนานและมั่นคงขึ้น สู้ๆนะคะ
แปลและเรียบเรียงโดย GelGirlsallaround