ความรักเป็นสิ่งที่อธิบายได้ยาก เพราะไม่สามารถใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์อธิบายได้โดยตรง ต้องขึ้นอยู่ความความรู้สึกเท่านั้น แต่ความเชื่อนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อนักจิตวิทยาที่ชื่อว่า John Gottman ได้ใช้การทดลองหนึ่งเพื่อดึงเอาปัจจัยที่ทำให้ความรักยืนยาวออกมา ซึ่งก็ดูน่าเชื่อถืออีกด้วยนะ!!
คุณจอห์นได้สร้างห้องวิจัยขึ้นมาซึ่งมีชื่อว่า ‘แลปแห่งรัก’ หรือ ‘Love Lab’ ค่ะ โดยหลังจากที่เขาได้ทำการทดลองกับคู่รักหลายๆคู่ เขาก็ได้ผลลัพธ์ออกมาว่าสิ่งที่จะทำให้ความรักยืนยาวคือ 1. ความอ่อนโยน และ 2. ความใจกว้างค่ะ
เบื้องต้นคุณจอห์นได้ค้นพบว่าหลักๆแล้วคู่รักจะมีอยู่ 2 กลุ่มค่ะ คือ ‘กลุ่มที่เข้ากันได้ดี’ และ ‘กลุ่มที่มุ่งหวังทำลายล้าง’ ซึ่งกลุ่มหลังเนี่ยจะมีแนวโน้มที่จะรักกันน้อยลง แม้ปากจะบอกรัก แต่การกระทำมันไม่ใช่!!
นอกจากนี้ยังค้นพบว่ากลุ่มที่มุ่งทำลายกันก็จะมีอัตราการเต้นของหัวใจที่ไว เลือดสูบฉีดเยอะ ทำให้อารมณ์แปรปรวนและทะเลาะกันบ่อย แม้แต่เรื่องขี้ประติ๋วก็เอามาทำเป็นเรื่องใหญ่โตกันได้
ต่อมาในปี 1990 เขาได้สร้างห้องทดลองที่ดูเหมือนห้องพักหรูแล้วให้คู่รักเข้าไปใช้ชีวิตร่วมกัน ซึ่งคุณจอห์นก็ได้ค้นพบอีกว่าคู่รักต่างก็มีช่วงเวลาที่ต้องการให้อีกฝ่ายมาสนใจ ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย ซึ่งถ้าอีกฝ่ายไม่ได้ใส่ใจ มองข้าม ก็จะเกิดเป็นรอยหมางในใจ และอาจจะขยายเป็นเรื่องใหญ่ภายหลัง
แต่ในทางกลับกัน คุณจอห์นเขาบอกว่าคนรักที่มีคุณสมบัติอ่อนโยนและใจกว้างจะใส่ใจกันในทุกรายละเอียดตั้งแต่เรื่องเล็กน้อย และไม่มองเห็นเป็นเรื่องไร้สาระ จุดนี้นั่นเองที่จะทำให้ความสัมพันธ์เหนียวแน่นขึ้น
อีกกรณีนึงคือเมื่อปี 2006 คุณจอห์นได้ค้นพบว่าคู่รักที่สนับสนุนซึ่งกันและกันในขณะที่มีเรื่องราวดีๆก็มีแนวโน้มจะรักกันยาวด้วย แต่ถ้าพูดจาไม่ให้กำลังใจ แถมยังบั่นทอนจิตใจ แบบนี้คงต้องเซย์กู๊ดบายกันล่ะค่ะ
โดยสรุปแล้ว ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า 33% ของคู่ที่ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องเล็กๆของกันและกันมีโอกาสเลิกกันภายใน 6 ปีให้หลัง ในส่วนของคู่รักที่สนับสนุนใส่ใจกันตลอด มีโอกาสถึง 87% ที่จะครองคู่กันตลอดไป
จะเห็นได้ว่าความรักไม่ได้ขึ้นอยู่กับฐานะ การศึกษา ความร่ำรวย และปัจจัยภายนอกเสมอไปนะคะ เพราะถึงแม้ทุกอย่างจะโอเคดีเลิศ แต่กลับอยู่ด้วยกันแบบขาดความใส่ใจซึ่งกันและกัน ความรักก็ไม่ยืนยาวคงกระพันหรอกจ้ะ
เรียบเรียงโดย raraROBYN
ที่มา meekhao