รู้หรือไม่ว่าในการทำงานนั้น หากเรามีการจัดการหรือตกแต่งพื้นที่ให้สามารถช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับการทำงานมากที่สุด ก็จะช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ออกมาได้อย่างมีคุณภาพ ฉะนั้นแล้วห้องทำงานที่ดี นอกจากจะต้องช่วยให้คุณรู้สึกไม่อึดอัดยังจะต้องมาพร้อมกับการจัดแต่งที่เป็นระเบียบลงตัวนั่นเอง
นอกจากนี้ห้องทำงานที่ดียังจะต้องรวบรวมสิ่งเหล่านี้เอาไว้ เพื่อให้การทำงานสามารถต่อยอดไปได้ไกลมากขึ้นกว่าเดิม แต่จะมีเรื่องใดบ้างนั้น เราลองไปดูกัน
1. เฟอร์นิเจอร์จะต้องตอบโจทย์กับการทำงานมากที่สุด
เพราะเฟอร์นิเจอร์คือสิ่งที่จะช่วยให้คุณสามารถขับเคลื่อนแรงบันดาลใจในการทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าหากคุณได้อยู่ในห้องทำงานที่มีพร้อมทุกสิ่งที่คุณต้องการ ก็จะช่วยให้คุณรู้สึกดี และพร้อมที่จะทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงานที่จะต้องเหมาะสม สามารถใช้คู่กับเก้าอี้ได้อย่างลงตัว และเมื่อพูดถึงเก้าอี้ การเลือกหาเก้าอี้สุขภาพ ที่สามารถรองรับกับสรีระของเราได้เป็นอย่างดี ไม่ทำให้เราต้องเมื่อยตัวระหว่างการทำงาน ที่สำคัญจะต้องมีขนาดที่พอดีไม่ทำให้เราอึดอัดหรือนั่งได้ลำบากอีกด้วย หรือมีการเลือกใช้ชั้นวางของที่สามารจัดการทั้งเอกสารของตกแต่งต่างๆ ได้อย่างเป็นระเบียบ ก็จะช่วยให้สามารถช่วยจัดระบบภายในห้องทำงานได้เป็นอย่างดี
2. การตกแต่งจะต้องช่วยให้เราเกิดสมาธิต่อการทำงาน
เชื่อว่าในห้องทำงานของแต่ละคนย่อมมีความแตกต่างกันไป ทั้งในเรื่องของสไตล์การตกแต่ง รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ด้วยเช่นกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ห้องทำงานควรจะต้องมีเหมือนๆ กันนั่นก็คือ สไตล์ที่เหมาะสมและสามารถช่วยให้แต่ละบุคคลสามารถนั่งทำงานได้อย่างมีสมาธิ ซึ่งเราจะสังเกตได้ว่า หากห้องทำงานของเรามีความรก และดูยุ่งเหยิงไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งต่างๆ ก็อาจจะทำให้เราเกิดความวุ่นวายใจ เพราะมองไปทางไหนก็ดูไม่สบายตา ซึ่งอาจทำให้รบกวนสมาธิต่อการทำงานได้ เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุด การแต่งสถานที่ทำงานให้มีความโปร่งโล่ง มีอากาศถ่ายเทได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้น
3. รูปแบบการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ จะต้องสอดคล้องกับการทำงาน
เฟอร์นิเจอร์คือหนึ่งในหัวใจสำคัญที่จะช่วยห้องทำงานนั้นๆ เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เนื่องจากว่า การจัดวางผังห้อง รวมถึงการวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม รวมถึงอยู่ในทิศทางของความเชื่อ ก็อาจเสริมการทำงานได้อย่างแท้จริงด้วยก็เป็นได้ ฉะนั้นแล้ว หากต้องการเลือกเฟอร์นิเจอร์ ก็ควรที่จะต้องดูขนาดของห้องเป็นเป็นหลักด้วย ไม่ใช่ว่าเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดที่ใหญ่จนเกินไป และเมื่อนำไปวางในห้องกลับกินพื้นที่ไปมาก ทางที่ดีที่สุด ควรจะต้องทำการวัดขนาดของห้องไปให้เรียบร้อย รวมถึงมีรูปแบบการตกแต่งแน่ชัด เพื่อให้การหาเฟอร์นิเจอร์มีความสะดวกและไม่ต้องมาหงุดหงิดใจในภายหลัง