‘โซฟา’ เฟอร์นิเจอร์ที่เปรียบเสมือนเป็นจุดศูนย์กลางของคนในบ้านเลย กับหน้าที่หลักของโซฟาคือ ต้องนั่งสบาย วัสดุต้องไม่ใช่อะไรที่นั่งแล้วรู้สึกระคายเคือง หรือถ้าจะเป็นโซฟาที่มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นก็อาจจะสามารถปรับระดับหรือยืดขาได้ แต่ทั้งนี้การจะตัดสินใจเดินเข้าร้านจำหน่ายโซฟาเพื่อเลือกซื้อสักชิ้นหนึ่งกลับบ้านก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะต้องทดลองนั่งด้วยตนเอง การตัดสินใจจากบริการต่างๆ ของทางร้าน และอื่นๆ อีกมากมาย วันนี้เรารวบรวม 3 เคล็ดลับเอาใจคนติดบ้านโดยเฉพาะ เลือกร้านโซฟายังไงให้เจอไอเท็มที่ชอบและตรงใจ ตามมาดูกันเลย
โชว์รูมบริการครบครัน
ตามที่กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่าหัวใจหลักที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเดินเข้าร้านขายโซฟาคือโชว์รูมต้องมีความสวยงามและดึงดูดมากเพียงพอ กับบริการที่ครบครัน เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ทดลองนั่งโซฟาครบทุกรูปแบบจนกว่าจะเจอชิ้นที่ถูกใจจริงๆ กลับบ้านไป โชว์รูมหรือร้านขายโซฟาที่ดีจะต้องเข้าใจลูกค้าว่าเมื่อซื้อกลับไปแล้วจะกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องผ่านการใช้งานอย่างคุ้มค่ามากที่สุด สามารถตอบโจทย์และทำหน้าที่ของการเป็นโซฟาได้อย่างดีเยี่ยม การใช้เวลาและให้ความสำคัญกับการเลือกสรรนั้นจึงถือเป็นเรื่องธรรมดา
ดีไซน์ให้เลือกหลากหลาย
สิ่งหนึ่งที่ร้านจำหน่ายโซฟาต้องเติมเต็มให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการนั่นก็คือจะต้องมีโซฟาให้เลือกหลากหลาย ตามแต่โจทย์และสไตล์การแต่งบ้านแบบนั้นๆ ของลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น โซฟารูปตัวไอ (I) ที่เหมาะกับบ้านทาวน์โฮมหรือคอนโดที่มีพื้นที่ไม่มากนัก โซฟารูปตัวแอล (L) เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ประมาณหนึ่ง นิยมวางไว้ในห้องนั่งเล่นเนื่องจากตัวเฟอร์นิเจอร์เองมีฟังก์ชันที่สามารถยืดขาได้ โซฟารูปตัวยู (U) อีกหนึ่งดีไซน์ของโซฟาที่เหมาะกับบ้านหรือที่พักอาศัยที่ต้องมีบริเวณมากพอสมควร ใช้กับบ้านหรือสถานที่ที่จำเป็นต้องบรรจุคนในปริมาณมาก อาจจะเป็นบ้านที่มีห้องคาราโอเกะหรือบ้านที่มีห้องปาร์ตี้ก็เหมาะสม ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบโจทย์ให้ครอบคลุมลูกค้าทุกรูปแบบ ร้านโซฟาที่เหมาะกับคนรักบ้านจะต้องมีเฟอร์นิเจอร์ให้เลือกในดีไซน์ที่หลากหลายและแตกต่างกันออกไปนั่นเอง
การขนส่ง และบริการหลังการขาย
โซฟานั้นจัดได้ว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ การที่จะตัดสินใจจบการขายกับร้านจำหน่ายโซฟาที่ไหนก็ตาม สิ่งสำคัญที่ลูกค้ามักจะถามหาเลยนั่นก็คือบริการขนส่งและบริการหลังการขาย ซึ่งตามปกติแล้วการจัดส่งสินค้านั้นถือเป็นบริการโดยทั่วไปที่ทางร้านจะต้องจัดเตรียมให้ลูกค้าอยู่แล้ว ส่วนอีกหนึ่งบริการที่อาจจะมี หรือไม่ได้มีในทุกๆ ร้านนั่นก็คือบริการซ่อมเฟอร์นิเจอร์ในกรณีที่เกิดชำรุดหรือเสียหายหลังใช้งาน แนะนำให้ตรวจสอบและถามข้อมูลให้ดี เพื่อให้ได้บริการหลังการขายอย่างครบครันและเพื่อเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากที่สุด