คนที่คิดจะใช้สมุนไพรอาจจะต้องระวังเรื่องของการแพ้ด้วยแม้ว่าสมุนไพรจะไม่มีสารเคมีเหมือนกับยาแผนปัจจุบัน แต่สมุนกับสมุนไพรตัวที่กำลังใช้อยู่หรืออาจะเกิดจากความไม่ชินต่อของเรา สังเกตอาการแพ้สมุน ไพรก็ไม่ต่างจากตัวยาอื่น ๆ คือมีทั้งคุณและโทษในเวลาเดียวกันจะควรจำที่อาจจะทำให้คุณสามารถสังเกตอาการแพ้สมุนไพรก็มีดังต่อไปนี้เช่น-มีผื่นขึ้นตามผิวหนังอาจเป็นตุ่ม ๆ เป็นขึ้นหรือเป็นเม็ดเป็นฝันคล้ายสมพิษอาจเกิดอาการตาบวมปิดริมฝีปากเจ่อ-มีอาการเบื่ออาหารคลื่นไส้อาเจียน-มีอาการหูอื้อตามัวชาที่ลิ้นชาที่ผิวหนัง-ประสาทความรู้สึกทำงานไวเกินปกติเช่นเพียงแตะผิวหนังก็รู้สึกเจ็บลูบผมก็แสบหนังศีรษะ ฯลฯ -ใจสั่นใจเต้นหรือรู้สึกวูบวาบคล้ายหัวใจจะหยุดเต้น-ตัวเหลืองตาเหลืองปัสสาวะเหลืองและเมื่อเขย่าจะเกิดฟองสีเหลืองอาการคล้ายดีซ่านอาการนี้แสดงถึงอันตรายที่ได้รับจากการใช้สมุนไพรถ้าเป็นเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่ยื่นแพ้ให้หยุดใช้เพราะแสดงว่าคุณอาจไม่ถูก
แปลกใหม่ลองพักสักระยะแล้วเริ่มต้นใช้ดูใหม่ แต่ถ้ามีอาการค่อนข้างหนักเช่นอาเจียนถ่ายเหลวควรไปพบแพทย์และแจ้งสาเหตุของอาการเจ็บป่วยนั้นอย่างละเอียดนำสมุนไพรที่คุณใช้ไปให้แพทย์ดูด้วย
7 สูตรถูกใจวิธีใช้สมุนไพรที่คุณเลือกได้
ส่วนใหญ่คนที่ใช้สมุนไพรมักจะเป็นการนำมาใช้สำหรับกินสด ๆ หรือเป็นส่วนประกอบของอาหาร แต่ถ้าคุณคิดอยากจะดัดแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ว่าเพื่อเพิ่มเรื่องของรสชาติหรือเพิ่มความสะดวกในการเก็บรักษาพกพาหรือเพื่อให้ได้ความมั่นใจว่าท่าเองกับมือด้ยากแล้วเติมน้ำร้อนตามลงไปวิธีชงนี้เหมาะกับสมุนไพรที่สามารถละลายน้ำได้ดีใช้ได้กับทั้งสมุนไพรสดและแห้งเพียง แต่ภาชนะที่ใช้ชงควรเป็นกระเบื้องแก้วหรือกระเบื้องเคลือบไม่ควรใช้โลหะเพราะอาจจะแสลง 1/405 ถูกใจ 55 ใช้สมุนไพรคุณเลือกได้ถูกสัดส่วนตามตำรับแน่นอนไม่มีสารปนเปื้อนที่คุณอาจพบได้ในสมุนไพรที่ซื้อหาเอาจากผู้ขายที่ไม่แน่ใจผู้เขียนมี 7 วิธีใช้สมุนไพรให้คุณนำไปใช้ดัดแปลงให้เข้ากับสมุนไพรของคุณเองการเรียนรู้วิธีปรุงสมุนไพรเองอย่างง่าย ๆ จะช่วยให้ผู้ใช้สมุนไพรสามารถประยุกต์ประโยชน์จากสมุนไพรส่วนที่ต้องการได้ง่ายขึ้นซึ่งคุณอาจจะลองพิจารณาจากทางเลือกเหล่านี้ดู การชงเป็นวิธีการพื้นฐานของการเตรียมสมุนไพรที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดเพียงแค่คุณเอาสมุนไพรที่คุณต้องการใช้ใส่ลงไปในภาชนะกับตัวยาที่ละลายออกมา
1 ส่วนน้าร้อน 10 ส่วนแล้วปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีจึงค่อยน่ามากรองเอาเฉพาะน้ำดื่มเมื่อดื่มไม่หมดก็สามารถนำที่เหลือไปเก็บไว้โดยปกติสัดส่วนของการเติมน้ำร้อนจะอยู่ที่ประมาณสมุนไพรในตู้เย็นเพื่อไม่ให้เสียรสชาติและกลิ่นการต้มวิธีต้มเหมาะสำหรับสมุนไพรที่มีสารละลายออกมาในน้ำเป็นวิธีการที่สกัดเอาตัวยาสมุนไพรได้ดีกว่าการชงข้อดีของยาต้มก็คือดูดซึมง่ายออกฤทธิ์เร็วและสะดวก แต่อาจจะทำให้รสชาติผิดเพี้ยนไปได้นิดหน่อยและเก็บไว้ได้ไม่นานคนที่คิดจะทำน้ำสมุนไพรด้วยวิธีนี้อาจต้องพิถีพิถันเรื่องภาชนะสำหรับต้มสักนิดเพราะภาชนะที่ใช้ต้มต้องเป็นหม้อดินหม้อเคลือบหรือหม้อสแตนเลสไม่ควรใช้หม้อที่ท้าจากโลหะอะลูมิเนียมหรือเหล็กเพราะอาจจะเกิดปฏิกิริยากับตัวยาได้และอาจจะมีผลต่อฤทธิ์ของยาเมื่อจะต้มให้นำส่วนของสมุนไพรที่ต้องการใช้มาล้างให้สะอาดแล้วค่อยนั่นหรืออย่าให้ชิ้นเล็กหรือใหญ่เกินไปส่วนสมุนไพรที่เป็นเหง้าหรือหัวใต้ดินควรจะทุบหรือบุพอแตกเพราะจะทำให้น้ำมันหอมระเหยทำงานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมเสร็จแล้วจึงค่อยนำสมุนไพรที่ได้ใส่ลงไปในหม้อต้มเวลาต้มก็ควรใส่น้ำให้ท่วมตัวสมุนไพรนิดหน่อยถ้าเป็นกรณีสมุนไพรตากแห้งก็มักนิยมให้แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนต้มเพื่อให้สมุนไพรดูดซึมน้ำให้เต็มที่ แต่ถ้าเป็นสมุนไพรสดก็ไม่ต้องแช่เวลาต้มให้ใช้ไฟอ่อน ๆ ต้มจนเดือดก่อนจะหรี่ไฟอ่อนหมั่นคนอยู่เสมอเพื่อให้ยาได้รับความร้อนทั่วถึงและป้องกันลืมทิ้งไว้จนไหม้ตำราสมุนไพรไทย ๆ มักให้ต้มน้ำจากตอนแรก 3 ส่วนต้มไปเรื่อย ๆ จนน้ำนอกจากการใช้เหล้าหรือเอทิลแอลกอฮอล์แล้วในบางสตรยังงวดลงเหลือเพียง 1 ส่วนแล้วค่อยเอากรองดื่มเฉพาะน้ำการศวิธีนี้เหมาะกับสมุนไพรที่มีตัวยาสำคัญไม่ละลายในน้ำจึงจำเป็นต้องใช้แอลกอฮอล์มาเป็นตัวทำละลายแทนด้วยการหมักหรือดองด้วยแอลกอฮอล์ซึ่งมีข้อดีที่ทำให้สมุนไพรนี้ไม่บูดเสียง่ายเราจึงได้เห็นยาดองในขวดโหลที่สามารถเก็บไว้ใช้งานได้นานนับปีที่เดียววิธีการก็ง่าย ๆ ไม่ว่าจะสับสมุนไพรเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลงในขวดโหลที่มีฝาปิดแน่นหนาหรือใช้ห่อด้วยผ้าขาวบางอีกชั้นหนึ่งเพื่อกันผงยาสมุนไพรแตกกระจายไม่น่ากินเทเหล้าให้ท่วมตัวยาทิ้งพักไว้สักสองสัปดาห์คอยหมั่นเปิดฝาคนบ้างวันเว้นวันส่วนแอลกอฮอล์ที่ใช้กันก็เป็นประเภทเหล้าขาว 28-40 ดีกรีหรือจะใช้“ เอทิลแอลกอฮอล์” (Ethy Alcohol) จำไว้ให้ขึ้นใจเลยว่าอย่าซื้อผิดหรือใช้ผิดเป็น“ เมทิลแอลกอฮอล์ (Methyl Alcohol) โดยเด็ดขาดเพราะเคยมีคนตาบอดหรือถึงตายเนื่องจากหยิบแอลกอฮอลล์ผิดประเภทมาใช้งานเป็นข่าวกันอยู่เนือง ๆ แล้วคลังความ
บอกว่าสามารถใช้น้ำหมักจากผลไม้หรือน้ำต้มสายชูซึ่งมีราคาถูกกว่าเหล้าในการดองยาก็ได้ แต่จะสกัดด้วยาได้ไม่ดีเท่าเหล้าหรือแอลกอฮอล์อายุการใช้รักษาก็สั้นกว่าจนน้ำการเชื่อมถ้าต้องการปรุงสมุนไพรให้มีรสชาติถูกปากโดยเฉพาะพวกของชม ๆ ทั้งหลายหรือประเภทแก้ไอระคายคอที่เด็ก ๆ มักเบือนหน้าหนีขอบอกว่าวิธีเชื่อมจะทำให้คนกินยาเลิกบ่นอีกต่อไปเพราะเราจะใช้น้ำผึ้งที่ทั้งหอมทั้งหวานมาเป็นตัวช่วยปรุงรสที่ได้ทั้งรสชาติและสรรพคุณวิธีการก็เหมือนต้มยาสมุนไพรทั่ว ๆ ไป แต่ช่วงราไฟอ่อน ๆ ให้เติมน้ำผึ้งลงไปพอหวานปะแล่มแล้วคนให้เข้ากันดีหลังจากนั้นปล่อยไว้ให้เย็นก่อนเทเก็บใส่ขวดหรือภาชนะที่มีฝาปิดทึบแสงจะทำไว้ใช้เองก็ถูกใจทั้งผู้ให้ผู้รับอย่างแน่นอนสกัดด้วยน้ามันสมมุติว่าคุณได้สูตรตัวยาสมุนไพรมาสักรายการหนึ่งเช่นประเภทน้ำมันนวดหรือสบู่อาบสมุนไพรวิธีการสกัดด้วยน้ำมันนี้เหมาะมากที่จะใช้ทำเป็นยาสำหรับภายนอกร่างกายแถมยังเป็นได้นานโดยไม่เสียคุณสมบัติที่ดีไปหากเก็บไว้ในขวดปิดฝาทึบแสงวางไว้ในที่อากาศเย็นและมืด
ทำไมกลางคืนเรานอนไม่หลับเลยเพื่อนเราหรือว่าเหมือนที่ผมเพื่อนฝรั่งเนี่ยเราไปทานข้าวประมาณ 21:00 น กำลังจะเลิกแล้วคบกันมาเฉยเลยเขาสั่งคาปูชิโน่ไม่ใช่เลยแต่ปัญหาเขาบอกกลับไปบ้านเขาหลับสบายถ้าเป็นฟ้าไม่สามารถรับกระบี่ประมาณ 400 มิลลิกรัมต่อวันก็คือทานวันนึง 4 แก้วเขายังเฉยนี่แหละอันนี้คือเรื่องราวของคนกินไม่ดีอีก 1 ตัวนะครับก็คือตัวเซ็นเซอร์วันนี้ก็คือเป็นตัวละนะครับสารในบางคนเวลาเราทานกาแฟแล้วกับคนอื่นมากเกินปวดหัวบางคนกระตุ้นดีจังไม่ง่วงทำงานได้เยอะนี่คือรหัสพันธุกรรมเช่นกรณีหมอจะเดินหน้าเข้าไป ฝนตกไหมที่ว่าประโยชน์ของกาแฟดําทุกวันทุกวันไม่ใช่พูดเสร็จแล้วก็ดีนู่นนี่นี่นั่นทำไมผมกินแล้วแย่ผมก็พยายามอยากจะกินให้ได้ถ้าเราเป็นชนิดที่เรา sensitive กับแฟนเราก็ไม่ควรจะกินนะครับคือเราต้องฟังเสียงร่างกายเราของบางอย่างหมอว่าดีของอย่างหมอว่าไม่ดีเราไม่ได้แปลว่าตัวนี้ไปเดี๋ยวจะแย่เลยคราวนี้เราไปดูประโยชน์ของกาแฟกันข้อที่ 19 แต่เป็นเหล็กหนาสำคัญของสารเมล็ดกาแฟเนี่ยมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์สารต้านอนุมูลอิสระเยอะมากเยอะในระดับบริษัทรายงานหน้านะครับมาทำเป็นแบรนด์และหน้านะครับนั่นก็คือว่าสรรพคุณในด้านสารต้านอนุมูลอิสระ
วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 บี 3 บี 5 บีแบงค์กันนี้มีโพแทสเซียมแมกนีเซียมฟอสฟอรัสนั่นคือประโยชน์ของเมล็ดกาแฟประโยชน์ข้อที่ 2 ครับมีสารคาเฟอีนอยู่ในนั้นเยอะก็จะมีฤทธิ์กระตุ้นสมองกระตุ้นยังไงทำไมคนติดกันทั้งโลกทำไมคนกินกันทุกเช้าจนมีคำพูดเยอะแยะมากมายว่าเช้านี้ยังไม่ได้ทานกาแฟอย่าเพิ่งมาคุยงานกับผมก็คือเจ้ากลับไปอีกเนี่ยไปยับยั้งการหดตัวของสารที่ชื่อว่าอดีตหนูสิเจ้าสารนิโคตินตัวนี้มีฤทธิ์คลายสมองทำให้เราง่วงนอนเพราะคาเฟอีนไปบล็อกหรือว่าไปหยุดเขาสมองก็ตื่นตัวสิครับเพราะว่าตัวนึงที่ทำให้อยากง่วงอยากนอนผ่อนคลายโดนบล็อก ทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนหรือว่าสารที่กระตุ้นสมองมากขึ้นครับก็คือความ Android Pre เน็ตทำให้เราสมองตื่นตัวทำให้เราก็ทำให้เราคิดงานได้นั่นคือเคล็ดลับนี้ซ่อนอยู่บ้านทำไมเวลาเราทานกาแฟเข้าไปเพิ่มอีกสัก 20 นาทีเริ่มมาแล้วสัก 1 ชั่วโมงทำงานได้แล้วนะครับว่าในปัจจุบันตอบว่าคนเราในปัจจุบันจึงต้องนอนให้ดีคุณภาพน้อยลงเรานอนดึกนะครับเรานั่งสบายๆน้อยๆพอตื่นมาอาบน้ำตกรอบขาดแคลนพลังรักแท้เรามาเติมอาหารการ์ตูนทั่วไปครับวันสองวันครับบ้านหลายคนที่ทำแบบนี้เป็นกิจวัตรเกิดผลเสียและกันไม่ใช่เป็นการที่จะเป็นยาวิเศษบ้างเมื่อคืนนอนไม่ดีเพราะตอนเช้า กาแฟก็ไป 1 แก้วแล้วดีพอดีกำลังหมดเติมอีกแบบนี้เดี๋ยวจะมีปัญหาในอนาคตข้อที่ 3 มีการวิจัยไว้ว่ากาแฟเนี่ยสามารถเพิ่มการเผาผลาญในร่างกายเราได้ผ่านสถานีชื่อว่ากาแฟหีชื่อว่าหิวไม่มีงานมีเงินเดือนและก็รู้สึกว่าการทานกาแฟสามารถเพิ่มการเผาผลาญและอุณหภูมิการเผาผลาญในร่างกายได้ประมาณ 30% ไม่มีการวิจัยในอเมริกา journal of physiology ในปี 1995 กาแฟเนี่ยสามารถเพิ่มการเผาผลาญหรื
วิธีการก็คือเอาสมุนไพรตัวที่คุณต้องการมาแช่ในน้ำมันพืชถ้านำใส่หม้อตุ๋นสองชั้นต้มไฟอ่อนนานประมาณ 2-3 ชั่วโมงแล้วค่อยกรองเอาแต่น้ำด้วยผ้าขาวบางจะเรียกว่าสกัดด้วยวิธีร้อน แต่ถ้าแช่ทิ้งไว้ในน้ำมันพืชเฉย ๆ นานสักสามสัปดาห์ก่อนกรองด้วยเอาเฉพาะของเหลวใส่ขวดหรือกระปุกเล็ก ๆ ที่เตรียมไว้รอจนเป็นจะได้ครีมสมุนไพรที่ทำเองกับมือไว้แจกจ่ายให้เพื่อนฝูงฮือฮาเล่นได้อีกผ้าขาวบางเช่นกันจะเรียกว่าวิธีเย็นทำเป็นครีมวิธีนี้เหมาะกับสมุนไพรที่ผ่านการอบแห้งมาแล้วโดยการนำมาผสมกับน้ำไขมันหรือน้ำมันและใช้ตัวช่วยทำให้น้ำเข้ากับน้ำมันที่เรียกว่า Emulsifying Ointment ซึ่งหาซื้อได้จากร้านขายเครื่องปรุงยาทั่ว ๆ ไปรวมทั้งใช้ขี้ผึ้งสีขาว (White beewax) ลาโนลีน (Anhydrous lanolin) ซึ่งจะเป็นตัวที่ทำให้เนื้อสมุนไพรนั้นกลายเป็นครีมมีเนื้อเนียนละเอียดยิ่งขึ้นวิธีการทำก็คือนำเอาขี้ผึ้งสีขาวผสมกับลาโนลื่นใส่ลงในหม้อ 2 ชั้นตั้งไฟอ่อนรอจนขี้ผึ้งละลายผสมกับลาโนลีนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วค่อยเติมน้ำมันพืชกลีเซอรีนน้ำและสมุนไพรเคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ นานประมาณ 3 ชั่วโมงถ้าคิดจะเพิ่มเสน่ห์ให้ครีมของคุณก็สามารถเติมกลิ่นหรือสีตามใจชอบได้ในขั้นตอนนี้จากนั้นใช้ผ้าขาวบางกรอง
ทำขี้ผึ้งสมุนไพรบางตัวไม่ละลายในน้ำ แต่ทำละลายได้ดีในน้ำมันหรือเหล้าเช่นพวกน้ำมันหอมระเหยต่าง ๆ วิธีทำเป็นขี้ผึ้งจึงเหมาะมากวิธีการก็คือนำเอาขี้ผึ้งหรือวาสลีนก็ได้ 1 ส่วนผสมกับน้ำมันพืช 4 ส่วนถ้าอยากให้เนื้อขี้ผึ้งออกมาค่อนข้างแข็งก็ลดปริมาณของน้ำมันพืชลงเล็กน้อยเสร็จแล้วนำส่วนผสมขึ้นเตาอุ่นให้เข้ากันเสร็จแล้วจึงเติมสมุนไพรที่สกัดรอไว้ก่อนหน้านี้ลงไปในปริมาณเท่า ๆ กันคนจนเป็นเนื้อเดียวกันยกลงจากเตารอให้เย็นจะได้เนื้อครีมตามต้องการเป็นอย่างไรกันบ้างกับ 7 วิธีการที่จะช่วยทำให้คุณสนุกกับสมุนไพรตามสูตรของคุณเองไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีใหนขอให้มั่นใจทุกครั้งว่าต้องทำด้วยความสะอาดหมันใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเก็บไว้เป็นการปรับปรุงขั้นตอนส่วนผสมสำหรับการทำในครั้งต่อ ๆ ไปและที่สำคัญคือคุณควรจะแน่ใจแล้วว่ารู้จักสมุนไพรที่คุณนำมาใช้อย่างดีพอศึกษาหาข้อมูลผลดีผลเสียผลข้างเคียงให้รอบด้านทุกครั้งก่อนเลือกใช้สมุนไพรตัวใดและอย่าหลงลืมเรื่องความปลอดภัยในการทำทุกครั้งดังที่ได้กล่าวมาแล้วในบทก่อน ๆ ว่าอะไรที่มากไปย่อมเป็นโทษน้อยไปย่อมไม่เกิดประโยชน์เมื่อได้สมุนไพรทำเองที่น่าภาคภูมิใจอย่าลืมแบ่งปันให้กับเพื่อน ๆ และคนที่คุณรักสนับสนุนการใช้ของไทย ๆ ไม่สิ้นเปลืองเงินตราแถมยังได้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้คนหันกลับมาสนใจภูมิปัญญาพื้นบ้านของเราเองอีกด้วย
ความจริงแล้วในธรรมชาติรอบ ๆ ตัวเรามีพืชพันธุ์ธรรมชาติอยู่มากมายที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและคุณประโยชน์ต่อเรื่องความงามของผู้หญิงได้ขอเพียง แต่ให้เรารู้จักเลือกรู้จักใช้คุณก็สามารถดูดีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยสมุนไพรจากธรรมชาตินี้เองสูตรเด็ดเคล็ดไม่ลับต่าง ๆ ต่อไปนี้ผู้เขียนรวบรวมจากแหล่งข้อมูลหลายแหล่งทั้งจากภาครัฐและเอกชนทั้งจากหน่วยงานด้านการเกษตรสุขภาพอนามัยคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่สมัยคุณแม่ยังสาวไปจนถึงข้อมูลจากแวดวงเสริมสวยเสริมความงามด้วยสมุนไพรสำนักต่าง ๆ ที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดโดยได้พยายามประมวลข้อมูลออกเป็นหมวดหมู่เพื่อให้ง่ายต่อคุณผู้อ่านที่จะนำไปปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์องแต่ละคนโดยการเรียบเรียงข้อมูลต่อไปนี้ได้เน้นหลักของการบอกให้ทราบพื้นฐานของสรรพคุณและคุณประโยชน์ของสมุนไพรแต่ละชนิดว่าเหมาะกับส่วนต่าง ๆ ตามร่างกายอย่างไรและก็จะควบคู่กันไปกับการเพิ่มคำแนะนำเรื่องการดูแลตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยสมุนไพร