นั่นหมายถึงศุกที่แค่ 6 ขึ้นมีจำนวนคาร์โบไฮเดรตบยุมากกว่า 4 ไขมันอยู่ 12 กรัมไขมันอิ่มตัว 2.5 กรัมคาร์โบไฮเดรด A) วนของที่แนะนำให้บริโภคต่อวันเสียอีกและน้ำตาลที่มีปริมาณสูงในคุกกี้นั้นจะทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้นจึงไม่เคย 4. คุกกคุกที่มีสัดส่วนของน้ำตาลสูงถึง 23 กรัมคุก 6 ชิ้นจะรับประทานมากเกินไป 5. มิชซ่าผิวหน้าแป้งพิซซ่าที่อบในอุณหภูมิสูงจะมีสารเคมีอะคริลิไมค์ (Acry / mides) เกิดขึ้นและเป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายประสาทได้พิซซ่าหน้าไส้กรอกทำให้มีความเสี่ยงสูงจากในไตรท์สารกันบูดและสารเคมีอื่น ๆ รวมทั้งไขมันอิ่มตัวที่มีการเติมเข้าไปในกระบวนการ 6. น้ำอัดลม-110 น้ำอัดลมจะมีสารตัวสำคัญตัวหนึ่งคือกรดกำมะถัน (PhOS phone2 (Scid) ที่สามารถละลายตะปูได้ภายใน 4 วันเพราะฉะนั้นภาพทำให้น้ำหนักตัวของคุณเพิ่มมากขึ้นและนอกจากนี้น้ำอัดลมยังประกอบด้วยน้ำโซดาที่จะเป็นตัวชะล้างแคลเซียมากกจากกระดูกของคุณท่าให้เกิดโรคกระดูกพรุนส่วนน้ำอัดลมที่เป็น Diet socio สำหรับคนที่ไม่อยากอ้วนจะใช้น้ำตาเทียมสังเคราะห์ (Artificial Swesternet) เพิ่มความหวานซึ่งแทนที่จะให้ผลดีกลับทำให้ร่างกายของคุณกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้นเพราะน้ำตาลสังเคราะห์เหล่านี้มีความหวานมากกว่าน้ำตาลธรรมดามากและสีที่ใช้เติมในน้ำอัดลมยังก่อให้เกิดโรคมะเร็งอีกน่ากลัวมั้ยล่ะ ไก่ทอดไร้กระดูกคุณรู้มั้ยว่าไก่ทอดไม่มีกระดูกที่คุณชอบทานเนี่ยทำมาจากชิ้นส่วนของไก่ที่ไม่ใช้แล้วน้อยมากที่จะทำมาจากเนื้อขาวจริงๆการรับประทานไก่ทอดไร้กระดูกจะให้พลังงาน 340 แคลอรีและ 50% เป็นไขมันมีแป้งขนมปังผสมอยู่มากจึงมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูงอีกทั้งยังมีการเติมสารปรุงรส (MSG = Monosodium Glutamate)ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ MSG เป็นสารเคมีที่เขาทำให้คนอ้วนขึ้นได้นอกจากนี้ยังมีสารฟอสเฟตประกอบอยู่ด้วยทำให้ว่างกายเกิดเป็นกรดเป็นการยากที่จะทำให้มันเผาไหม้ไขมันได้อย่างเหมาะสมถูกต้องจึงถูกสะสมและยากที่จะทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้และยังมีสารอะลูมิเนียมซึ่งเป็นสารพิษที่มีอันตรายต่อสมองและเป็นอันตรายต่อการเมตาบอลิซึมของร่างกายด้วย 8. ไอศกรีมคุณรู้มั้ยว่าไอศกรีมที่นิยมทานกันอยู่ในปัจจุบันนี้มีไขมันอยู่สูงมากเกินกว่า 50% ของไขมันที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวันไอศกรีมยังมีคาร์โบไฮเดรตอยู่มากเกือบ 40% ของคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวันอีกด้วยและยังมีน้ำตาลอยู่มากทำให้มีความกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้นเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังของคุณเที่ยวย่นนอกจากนี้ไอศกรีมยังเต็มไปด้วยไขมันไฮโดรจีเนตและไขมันที่แปรเปลี่ยน (Transfot) ไปจากธรรมชาติและจะทำให้คุณมีคอเลสโดยราบลสูงทำให้เส้นเลือดแดงใหญ่อุดตันทำให้มีสารอนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มมากยิ่งขึ้นซึ่งเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
แนะนำให้คบริโภคต่อครั้งต่อวันมีเกลือโซเดียมอยู่สูงมากทำให้ร่างกาย 8 โดนัทโดนัทหนึ่งชิ้นมีแป้งคาร์โบไฮเดรตอยู่มากกว่า 50% ของที่ขาดน้ำได้โดนัทจะทอดในน้ำมันที่มีการออกซิไดซ์และในแต่ละครั้งน้ำมันนั้นใช้ทอดกันหลายรอบนานหลายสัปดาห์น้ำมันในอุณหภูมิที่สูงจะทำให้มีกลิ่นหินและมีสารอนุมูลอิสระเกิดขึ้นทำให้เกิดสารพิษและทำให้ร่างกายเมตาบอลิซึมข้าลงเป็นสาเหตุให้สุขภาพของคุณย่าแย่และในโดนัทนั้นยังมีน้ำตาลอยู่สูงทำให้มีความกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้นเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นอีกด้วยเป็นอย่างไรกันบ้างได้เห็นถึงอันตรายจากอาหารฟาสต์ฟูดกันบ้างหรือยังน่ากลัวใช่มั้ยล่ะที่นี้คุณจะยังอยากรับประทานพวกมันเพื่อความเอร็ดอร่อยที่เต็มไปด้วยอันตรายที่จะเกิดกับสุขภาพของคุณอีกหรือไม่ลองเปลี่ยนไปรับประทานอาหารอย่างอื่นที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณจะดีกว่า 113
เปลี่ยนนิสัย ไม่กี่อย่างที่จะทำร้ายสมองของคุณคุณรู้มั้ยว่าปัจจุบันนี้คนไม่ขึ้นส่วนใหญ่มักจะทำร้ายสมองของตัวเองไปโดยไม่รู้ตัวหรือบางคนรู้ แต่ก็ยังทำอยู่การทำร้ายสมองของตัวคุณเองเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาคุณคงไม่เชื่อล่ะสิว่าตัวคุณเองจะสามารถทำร้ายสมองของคุณได้ตลอดเวลา le อย่างไม่น่าเชื่อมาดูกันสิว่าการกระทำใด ๆ ของคุณบ้างที่สามารถทำร้ายสมองของคุณได้ คุณคงเป็นอีกคนหนึ่งใช่มั้ยที่ไม่ชอบทานอาหารเช้าความจริงแล้วเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีเอาเสียเลยเพราะอาหารเช้าเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมากในการเริ่มต้นทำงานการไม่ทานอาหารเช้าจะทำให้มีสารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคสมองเสื่อม คุณทานอาหารมากเกินไปหรือน้อยเกินไปหรือเปล่าเพราะไม่ว่าจะทานมากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็ส่งผลเสียกับสมองทั้งสิ้น
ซึ่งการทานอาหารมากเกินไปนั้นจะทำให้หลอดเลือดแดงในลม. คุณชอบทานของหวานหรือเปล่าเพราะการที่คุณทนคุณอากาศที่เป็นพิษนั้นจะทำให้ร่างกายของคุณไม่สามารถที่จะเพียงพอกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอซึ่งปัญหาที่ตามมาก็คือแข็งตัวเป็นสาเหตุให้เกิดโรคความจำสั้นของหวานไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ความหวานที่คุณได้รับจากอาหารเหล่านั้นจะไปขัดขวางการดูดกลืนโปรตีนและสารอาหารที่เป็นประโยชน์เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและการพัฒนาของสมองไม่ดีพอ คุณสูบบุหรี่หรือเปล่าเพราะการสูบบุหรี่นั้นเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคสมองฝ่อและโรคอัลไซเมอร์คุณได้รับอากาศเป็นพิษและมลภาวะต่างๆจากการเดินทางไปทำงานหรืออยู่นอกบ้านหรือไม่เพราะการได้รับอากาศเป็นพิษมากเกินไปก็จะเกิดผลเสียต่อร่างกายของคุณโดยเฉพาะสมองของต่างให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงด้วยความที่คุณอดนอนหรือไม่สบายหรือไม่เพราะการใช้สมองในช่วงเวลาที่ร่างกายไม่พร้อมนั้นจะทำให้สมองยิ่งอ่อนแอเข้าไปใหญ่คุณขอบใช้สมองทำงานหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องใช้และถ้าคุณยิ่งฝืนใช้สมองต่อไปก็จะส่งผลร้ายกับสมองมากยิ่งขึ้นไปอีก คุณเป็นคนที่ไม่ชอบคิดหรือเปล่าเพราะการไม่ชอบคิดจะทำให้สมองของคุณไม่ได้รับการกระตุ้นให้ทำงานเมื่อไม่ได้รับการกระตุ้นให้ทำงานแล้วสมองของคุณก็จะฝ่อและไม่สามารถพัฒนาความคิดของตัวเองให้ดีกว่าเดิมได้กลายเป็นคนไม่มีสมองไปซะอย่างนั้นเพราะฉะนั้นใช้สมองในการคิดบ้างเถอะไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือการเล่นเกมส์หรือการคิดทำในสิ่งที่สร้างสรรค์เพื่อสังคมและคนรอบข้างของคุณบ่อยๆก็จะดีสมองไม่มีทางฝ่อแน่ คุณเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดหรือเปล่าประมาณว่าวันหนึ่งนับคำพูดได้ว่าคุณพูดไปกี่คำถ้าเป็นแบบนั้นละก็แสดงให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่าประสิทธิภาพทางสมองของคุณไม่ค่อยจะดีแล้วเนื่องจากการพูดนั้นจะเป็นตัวบอกถึงประสิทธิภาพที่ดีของสมองมอนตุงในจะพาคุณมีลักษณะการนอนเป็นอย่างไรเชื่อหรือไม่ว่าการนอนหลับพักผ่อนเพียงพอและท่านอนนั้นก็มีส่วนในการทำร้ายสมอง คุณชอบดื่มสุราหรือไม่เพราะการดื่มสุราจะทำให้เกิดภาวะผิดปกติทางจิตอย่างเฉียบพลันนั่นคือประสิทธิภาพการรับรู้การเช่นเดียวกันเช่นถ้าคุณเป็นคนที่ชอบนอนคลุมโปงก็จะทำให้คุณตัดสินใจการสืบสาน“ มองคุณจะไม่พาดเจนและคุณจะกลายเป็นคนที่ของคนอื่น คุณได้รับคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าออกซิเจนและแน่นอนมันจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมองของคุณด้วยเพราะฉะนั้นเปลี่ยนท่านอนซะสมองจะได้ทำงานเต็มที่เพราะได้รับออกซิเจนเต็มที่ คุณอดนอนบ่อยหรือไม่เพราะการอดนอนเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้สมองไม่ได้รับการพักผ่อนและในที่สุดก็จะทำให้เซลล์ในสมองของคุณตายได้
เอาล่ะจากทั้งหมดที่กล่าวมามีข้อไหนบ้างที่คุณทำอยู่ถ้ามีละก็เปลี่ยนนิสัยแบบนั้นซะเพื่อสมองที่มีประสิทธิภาพและการดำเนินชีวิตที่ดีของคุณต่อไปเปลี่ยนมากินว่านหางจระเข้กันดีกว่า คุณรู้มั้ยว่าว่านหางจระเข้ที่ปลูกอยู่หน้าบ้านหรือหลังบ้านของคุณนั้นมีประโยชน์มากมายอย่างที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนเลยล่ะประโยชน์ของมันมีอะไรบ้างนะเหรอมาดูกัน ว่านหางจระเข้นั้นมีสารประกอบที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรานั่นคือ เกลือแร่ซีลีเนียมแมกนีเซียมแคลเซียมและโพแทสเซียม 2. วิตามินบี 1 บี 2 บี 3 ปี 6 และบี วิตามินอี 4. วิตามินซี C กกรดอะมิโนแอซิดครบทั้ง 2 ทีนี้มาดูสรรพคุณอื่น ๆ ของว่านหางจระเข้กันและอยู่ในรูปที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายว่านหางจระเข้นั้นช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ต่างๆในทางเดินอาหารให้ทำงานได้ดีขึ้นทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้นและได้รับสารอาหารที่รับประทานเข้าไปได้มากขึ้นและจากผลการวิจัยพบว่าว่านหางจระเข้มีประโยชน์ในผู้ป่วยเบาหวานโดยการไปกระตุ้นให้ตับอ่อนมีการสร้างอินซูลิน (Insulin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและหากรับประทานเป็นประจำจะช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายโดยรวมให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอและร่างกายก็พร้อมที่จะทำงานหนักได้ตลอดเวลานอกจากนี้ว่านหางจระเข้ยังเป็นยาระบายอ่อน ๆ ทำให้อุจจาระย่อนตัวและถูกขับออกมาง่ายขึ้นจึงให้ผลดีสำหรับคนที่ท้องผูกเป็นประจำและจากผลการวิจัยอีกเช่นกันพบว่าว่านหางจระเข้มีฤทธิ์เป็นยาต้านแบคทีเรีย (Anti-Bacterial Activity) จึงป้องกันการติดเชื้อในผู้ป่วยทางเดินอาหารอักเสบได้อย่างดีถึงว่านหางจระเข้จะมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมายก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเพราะข้อเสียของว่านหางจระเข้นั้นก็คือสตรีที่อยู่ในระยะตั้งครรภ์หรือมีประจำเดือนถ้าหากว่ารับประทานว่านหางจระเข้ในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้ประจำเดือนมามากผิดปกติหรืออาจจะเกิดอันตรายทำให้แท้งได้. กินผักชนิดเดียวอยู่ตั้งนานเปลี่ยนมา กินผักหลากหลายใช้คกันเถอะแบคุณรู้หรือไม่ว่าการรับประทานอาหารแต่ละมือซ้ำ ๆ ซาก ๆ เป็นเวลานานนั้นจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณและเช่นเดียวกันถึงแม้อาหารมื้อเดิม ๆ ของคุณจะเป็นมื้ออาหารที่มีประโยชน์ก็ตาม แต่ก็สามารถที่ท้องจะส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณได้เช่นเดียวกัน หลายคนอาจจะเถียงว่า แต่ทุกมื้อฉันก็ทานผักนะแน่นอนคุณทานผัก แต่ผักที่คุณทานนั้นซ้ำ ๆ กันอยู่ทุกวันหรือไม่ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณต้องเปลี่ยนผักที่คุณทานอยู่บ้างแล้วล่ะเพราะถึงจะเป็นผัก แต่ก็อาจทำให้สุขภาพคุณย่ำแย่ได้เนื่องจากสารอาหารต่างๆในผักนั้นมีสรรพคุณในการป้องกันโรคต่างชนิดกันและเมื่อคุณทาน แต่ผักชนิดเดิมซ้ำกันอยู่ทุกวันแล้วจะเอาสารอาหารชนิดอื่น ๆ ที่ไม่มีอยู่ในผักที่คุณรับประทานซ้ำอยู่ทุกวันมาจากไหนล่ะเพราะฉะนั้นคุณต้องเปลี่ยนมาทานผักชนิดอื่นบ้างเพราะสารในผักชนิดอื่นจะได้ช่วยป้องกันสุขภาพของคุณจากโรคต่างๆได้มากยิ่งขึ้น แต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติในการป้องกันและรักษาโรคหอมหัวใหญ่หอมเล็กต้นหอมและกระเทียมจะมีตลาดที่ชื่อว่าอัลติดซัลไฟต์ส (Alyl sulfides) ซึ่งจะไปช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ในร่างกายให้กำลังในการกำจัดสารพิษได้ดีขึ้นมะเป็นเทศมันฝรั่งบร็อกโคลีหอมหัวใหญ่ใบคะน้าแตกต่างกันออกไปดังนี้มะเขือยาวมันฝรั่งพริกไทยจะมีสารที่ชื่อว่า (Glucarate) ช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งกลูตาเรด-ผักตระกูลกะหล่ำทุกชนิดจะมีสารที่ชื่อว่าดิธิโอเนส (Dinhiones) และไอโซอิโอไซยาเนต (Isothocyanata) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ให้ขับสารก่อมะเร็งในร่างกายได้ดีขึ้นและมีสารที่ชื่อว่าอินโดล (Indoe) ช่วยลดความเสี่ยงโรคที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิงเช่นมะเร็งเต้านมได้จะมีสารที่ชื่อว่าฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) เป็นสารที่อยู่ในผักตัวสำคัญอีกตัวหนึ่งช่วยทำให้ภูมิต้านทานแข็งแรงขึ้นและต่อสู้โรคไตนพลาโวนอยด์สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายกลุ่มเช่นถ้ามีสีเขียวเข้มเหลืองส้มแดงหรือม่วงจะมีสารที่ชื่อว่าแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) สารกลุ่มนี้เป็นที่รู้จักดีในฐานะที่เป็นสารต้านอนุมูทกิจระตัวสำคัญประกอบไปด้วย•เบต้าแคโรทีน (Betacarotene) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระตัวเก่งและลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดได้อย่างดีพบมากในผักสีจัด ๆ เช่นแครอตผักใบเขียวทุกชนิดพริกหวานสีแดงฟักทองไลโคเพน (Lycopene) ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดซึ่งจะมะเร็งต่อมลูกหมากพบได้ในมะเขือเทศได้•ลูทีนลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งและชะลอความเหี่ยวย่นของผิวหนังพบมากในผักใบเขียวทุกชนิดที่นี้เห็นถึงประโยชน์ในการรับประทานผักหลากหลายชนิดหรือยังว่าคุณจะได้รับสารอาหารที่มีคุณประโยชน์กับร่างกายมากมายขนาดไหนป้องกันโรคแถมสุขภาพยังแข็งแรงด้วยแบบนี้ทานผักแค่ชนิดเดียวไม่ได้แล้ว อยากมีสุขภาพดีทำอย่างไรดีมีวิธีมากมายที่จะทำให้ถ้าสุขภาพของคุณแข็งแรงปราศจาก: โรคภัยไข้เจ็บ แต่ก็มีคนจํานวนไม่น้อยที่ละเลยเรื่องสุขภาพของตัวเองไปผลที่ตามมาก็คือความเจ็บป่วยที่คุณไม่ปรารถนาแล้วทีนี้และจะทำยังไงล่ะคำตอบก็คือไม่ยากต่าง ๆ เลยที่คุณจะหันมาเริ่มดูแลสุขภาพของตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ก่อนที่คำคุณว่า “สายไปแล้ว” วิธีดูแลสุขภาพที่จะแนะนำดังต่อไปนี้เป็นวิธีง่ายๆที่คุณสามารถจะปฏิบัติได้เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณมาทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้นกันเถอะ 1. ถ้าคุณผู้หญิงกลัวที่จะเป็นมะเร็งเต้านมขอแนะนำให้รับประทานบร็อกโคลีเยอะ ๆ เนื่องจากบร็อกโคลีมีสารอาหารที่มีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านอนุมูลอิสระสามารถลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านมดังนั้นการรับประทานแบบสดๆประมาณครึ่งถ้วยจะทำให้คุณได้รับสารอาหารต้านมะเร็งมีปริมาณถึง73 มิลลิกรัม