เมื่อพูดถึงน้ำมันแล้ว คนที่ลดความอ้วนจะกลัวมากเพราะต้องงดของทอดของมันเท่านั้น ยิ่งน้ำมันพืชหรือน้ำมันหมูนี้เราจะไม่แตะเลย แต่ยังไงร่างกายต้องการน้ำมันนะเพราะไขมันทุกชนิดไม่ว่าจะมาจากพืชหรือจากสัตว์ก็ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์
ปัญหาโลกแตกเลยระหว่างน้ำมันพืชกับน้ำมันหมู ควรกินน้ำมันชนิดไหนดีที่เราจะไม่อ้วน ไม่มีน้ำมันชนิดไหนที่ดีที่สดและเลวที่สุดเพราะการนำไปใช้ให้เหมาะสมกับการปรุงอาหารแต่ละชนิดมากกว่า
“น้ำมันหมู” เป็นกรดไขมันอิ่มตัว (Saturated fatty acids) มีสมบัติแข็งตัวง่าย มีจุดหลอมเหลวสูง ร่างกายขับออกยาก สามารถทำให้อาหารกรอบมาก และคนไทยทานน้ำมันหมูมานานเพราะสมัยก่อนยังไม่มีน้ำมันพืชผลิตขาย แค่เจียวกากหมูเพื่อให้ได้น้ำมันหมูมาทำอาหารประเภททอด อาหารที่ใช้ความร้อนสูงได้ดี มีความปลอดภัย อาหารที่ได้ก็จะหอม อร่อยและไม่ผ่านสารเคมีใดๆมาจากธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัยต่อร่างกายเรา
น้ำมันหมูมีคอเลสเตอรอล 9 มิลลิกรัมต่อ 1 ช้อนโต๊ะ ดังนั้นหากเรากินน้ำมันหมูมากในแต่ละวัน ร่างกายได้รับพลังงานสูง ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลเพิ่มมากขึ้น เสี่ยงต่อโรคไขมันอุดตันเส้นเลือดและโรคเรื้อรังอื่นๆที่จะมาตามอีก
“นํ้ามันพืช” เป็นน้ำมันที่ผลิตจากพืชเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง (Unsturated fatty acids) มีสมบัติแข็งตัวยาก มีจุดหลอมเหลวต่ำ ร่างกายสามารถขับออกได้ ข้อดีคือไขมันเลวลดลง ข้อเสียคือเหม็นหืนง่าย เหมาะทำเมนูผัด ไม่ควรทอดเพราะทำให้กลิ่นหืน ควันเยอะ และเกิดอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง
น้ำมันถั่วเหลืองเพราะน้ำมันพืชที่ผ่านกรรมวิธีเหล่านี้ไม่สามารถขับออกจากร่างกายได้ง่าย ๆ เหมือนน้ำมันหมู ส่วนน้ำมันพืชที่กว่าจะสกัดเป็นน้ำมันออกมาได้ ต้องเติมนั่นเติมนี่อาจจะมีสารเคมีปะปนมาและไม่ดีสุขภาพของเรา
สรุปไม่ควรใช้น้ำมันทอดซ้ำหลายๆครั้ง น้ำมันที่ผ่านความร้อนสูงหลายๆครั้งไม่ดีต่อสุขภาพ เลือกน้ำมันให้เหมาะกับการปรุงและควรใช้น้ำมันหมูสำหรับทอดเพราะทนความร้อนสูง ควรใช้น้ำมันพืชในการผัดเพราะไม่ทนความร้อน ดังนั้น ในการกินน้ำมันเป็นจำนวนมากส่งผลไม่ดีต่อร่างกายถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในร่างกายเพื่อสุขภาพที่ดีต้องจำกัดปริมาณการรับประทานน้ำมันไม่ให้เกินวันละ 6 ช้อนชา ถ้าไม่อยากอ้วนก็ต้องควบคุมอาหารและหมั่นออกกำลังกายด้วยนะคะ