4 สมุนไพรรักษาฝ้า หน้าสวยได้ด้วยธรรมชาติ

การดูแลรักษาผิวหน้าด้วยสมุนไพรมีมาช้านาน เพราะสมุนไพรที่เราหาได้ทั่วไปมีสรรพคุณดีๆ ที่ช่วยให้ผิวหน้าของเราขาวใส รวมไปถึงการใช้สมุนไพรในการรักษาฝ้า เพราะสมุนไพรสามารถช่วยผลักเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ไม่มีสารเคมีตกค้าง จึงเหมาะกับสาวๆ ที่อยากดูแลตัวเองด้วยวิธีธรรมชาติ โดยวันนี้เรามีสมุนไพรที่จะมาช่วยในการรักษาฝ้า โดยมีสมุนไพรดังต่อไปนี้

1.มะขาม

ถ้าพูดถึงการขัดหรือพอกผิวด้วยวิธีธรรมชาติ ยังไงก็คงหนีไม่พ้น ’มะขาม’ เนื่องจากมะขามมีกรดผลไม้ตามธรรมชาติหรือ AHA ช่วยให้การผลัดเซลล์ผิวเก่า ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส ซึ่งสามารถนำมาช่วยในการรักษาฝ้าได้โดยคั้นเอาน้ำมะขามมาทาบางๆ บริเวณที่เป็นฝ้า พอกทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วล้างออก วิธีนี้ช่วยลดจุดด่างดำรวมถึงทำให้ฝ้าดูจางลง 


2.ทานาคา

เคล็ดลับผิวเรียบเนียน ขาวกระจ่างใสของสาวชาวพม่าก็คือ ‘ทานาคา’ ซึ่งตัวผงทานาคามีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดริ้วรอยและป้องกันกันรังสียูวีจากแสงแดดได้อีกด้วย นอกจากนั้นทายาคายังมีคุณสมบัติในการลดการสร้างเมลานินซึ่งสามารถช่วยในการรักษาฝ้า ซึ่งวิธีนำผงทานาคามาใช้ก็คือนำมาผสมน้ำแล้วทาให้ทั่วใบหน้าก่อนและหลังออกไป เผชิญกับแสงแดด 


3.ว่านหางจระเข้
เวลาเราเจอแสงแดดเป็นเวลานานจนผิวแดงจากแดด ‘ว่านหางจระเข้’ สามารถช่วยบรรเทาอาหารแสบร้อนจากแดดรวมถึงช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รักษาฝ้าและให้ความชุ่มชื่นอีกด้วย โดยนำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกจนเหลือแต่วุ้นใสๆ ล้างส่วนที่เป็นยางออกให้หมด แล้วนำมาพอกบริเวณใบหน้า 15-20 นาที โดยอาจนำไปแช่เย็นเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับผิวได้  


4.หัวไชเท้า

หัวไชเท้าเป็นอีกวิธีธรรมชาติที่ช่วยรักษาฝ้าได้ เพราะในหัวไชเท้ามีวิตามินซีสูง ช่วยลดการเกิดเม็ดสีผิวรวมถึงการเกิดฝ้า สามารถนำมาทาบริเวณที่เราต้องการได้ โดยนำไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หรือปั่นให้ละเอียด พอกหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก แต่หากเกิดอาการระคายเคืองแนะนำให้รีบล้างออก หรือหากใครที่มีผิวแพ้ง่ายควรระวังการระคายเคืองหรือแพ้ 

สำหรับใครที่อยากรักษาฝ้าด้วยวิธีทางธรรมชาติ การเลือกใช้สมุนไพรทั้ง 4 ตัวที่แนะนำสามารถช่วยลดเลือนฝ้าได้ แต่ทั้งนี้ก่อนการนำมาใช้ควรทดสอบการแพ้ก่อนเสมอ โดยนำส่วนผสมมาทาใต้ท้องแขน หากมีอาหารแสบ ร้อน ระคายเคือง เกิดเป็นผดผื่น แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงสมุนไพรดังกล่าว