‘เพราะการแต่งหน้าก็เปรียบเสมือนการเสริมบุคลิก’ โดยเฉพาะสาวๆ วัยทำงาน เพื่อเป็นการเรียกความมั่นใจ เสริมลุคให้ดูภูมิฐาน น่าเชื่อถือ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการแต่งหน้าคือหนึ่งในตัวช่วยสำคัญ แต่สำหรับสาวๆ คนไหนที่เป็นมือใหม่เพิ่งหัดแต่งหน้าแล้วล่ะก็ การให้ความสำคัญกับขั้นตอนการทำความสะอาดก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ปัจจุบันในท้องตลาดบิวตี้บ้านเรานั้นมีผลิตภัณฑ์กลุ่มคลีนซิ่งสำหรับเช็ดหน้าหรือเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางผลิตออกมาเยอะแยะมากมายให้สาวๆ กลุ่มผู้บริโภคได้เลือกสรร แต่จะมีสูตรไหนน่าสนใจ เหมาะกับสภาพผิวประเภทไหนบ้าง ตามมาหาข้อมูลกันต่อได้จากบทความนี้เลย
คลีนซิ่งแบบเจล (Cleansing gel)
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางสูตรแรก เนื้อสัมผัสเป็นแบบเจลขุ่นๆ หรือบางยี่ห้ออาจจะเป็นเจลแบบใส ให้คุณสมบัติที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวแม้แต่ผิวแพ้ง่าย วิธีใช้ก็ง่ายๆ เพียงแค่บีบลงบนฝ่ามือแล้วนำไปถูบนบริเวณที่ต้องการจนกว่าเครื่องสำอางจะละลายออกหมด จากนั้นจึงค่อยตามด้วยน้ำเปล่า สำหรับข้อดีของเจ้าคลีนซิ่งเช็ดหน้าแบบเจลนั่นก็คือจะไม่ทิ้งคราบความมันเอาไว้บนใบหน้า หลังล้างออกจากน้ำเปล่าแล้วยังคงทิ้งความชุ่มชื้นเอาไว้บนชั้นผิว ไม่ทำให้ผิวรู้สึกแห้งตึงแต่อย่างใด
คลีนซิ่งแบบน้ำนม (Cleansing milk)
อีกหนึ่งสูตรของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอาง กับคลีนซิ่งเช็ดหน้าสูตรน้ำนม แน่นอนว่าเนื้อผลิตภัณฑ์จะมีลักษณะเป็นสีขาวขุ่นเหมือนน้ำนม เนื้อละเอียดมากน้อยตามแต่ยี่ห้อ วิธีใช้ก็ง่ายๆ บีบผลิตภัณฑ์ลงบนฝ่ามือ จากนั้นนำไปนวดวนๆ บนใบหน้าจนเครื่องสำอางละลายออกจนหมดแล้วค่อยใช้สำลีสะอาดหรือผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดออก ทำต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าคราบเครื่องสำอางจะหลุดออกหมดและสะอาดมากพอ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะอย่ายิ่งคนผิวแพ้ง่าย นอกจากคลีนซิ่งเช็ดหน้าสูตรนี้จะช่วยชำระล้างคราบเครื่องสำอางออกแล้ว ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำนมยังมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวไปในตัวได้อีกด้วย
คลีนซิ่งบาล์ม (Cleansing balm)
เรียกได้ว่าแทบจะเป็นหนึ่งในประเภทคลีนซิ่งเช็ดหน้าสูตรใหม่ล่าสุดในท้องตลาดเลยก็ว่าได้ เปิดประสบการณ์การเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางแบบเดิมๆ กับเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ให้สัมผัสเป็นแบบบาล์มหรือขี้ผึ้ง คล้ายกับคลีนซิ่งเนื้อครีมแต่จะมีความหนืดกว่าเล็กน้อย อีกหนึ่งจุดเด่นเลยนั่นก็คือสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้ควบคู่กับสำลี จึงช่วยลดโอกาสการระคายเคืองจากการเสียดสี วิธีใช้ก็ง่ายๆ เพียงแค่นวดเนื้อผลิตภัณฑ์ลงบนใบหน้า รอจนเครื่องสำอางเริ่มละลายออกหมด จากนั้นล้างต่อด้วยน้ำเปล่า เพียงเท่านี้ผิวหน้าของคุณก็พร้อมสำหรับการบำรุงขั้นตอนถัดไปแล้วล่ะ
คลีนซิ่งสูตรน้ำ (Cleansing water)
กลับสู่วงการเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางสูตรดั้งเดิม คือคลีนซิ่งเช็ดหน้าแบบน้ำ เนื้อผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของน้ำ (Liquid) เป็นหลัก ส่วนใหญ่แล้วจะปราศจากน้ำมัน หรือ Oil free ใช้ควบคู่กับสำลี สำหรับคลีนซิ่งสูตรน้ำในบางยี่ห้อที่มีประสิทธิภาพดีมากๆ หลังเช็ดทำความสะอาดด้วยสำลีเสร็จไม่จำเป็นต้องล้างตามด้วยน้ำเปล่าก็ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแต่อย่างใด สำหรับใครที่ต้องการเน้นย้ำเรื่องประสิทธิภาพการทำความสะอาดเป็นพิเศษ บอกเลยว่าเจ้าคลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางสูตรน้ำยังคงประสิทธิภาพและยืนหนึ่งเรื่องความสะอาดได้อย่างดีเยี่ยม แนะนำให้เทลงบนแผ่นสำลีให้ชุ่ม เพื่อลดโอกาสการระคายเคืองจากการเสียดสีนั่นเอง สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว แต่สำหรับสาวๆ คนไหนที่ผิวหน้าเริ่มมีอาการระคายเคืองหรือมีการอักเสบบนชั้นผิว แนะนำให้พิถีพิถันกับการเลือกคลีนซิ่งสูตรนี้สักหน่อย เพื่อลดโอกาสการเกิดสิวอักเสบหรือสิวอุดตันในภายหลังนั่นเอง