สาวๆก็คงจะรู้ดีกันอยู่แล้วว่าการพูดคุยกันจะทำให้ความสัมพันธ์ยืนยาวได้มากขึ้น แม้แต่การวิจัยทางด้านความรักพบว่า ‘คู่รักที่หมั่นพูดคุยหารือกันเรื่องความสัมพันธ์กันจะมีชีวิตคู่ได้ดีกว่าคู่ที่คบกันไปเรื่อยๆเฉื่อยๆ’!! Girlsallaround.com ก็เลยรวบรวมคำถามที่ควรจะอยู่ในบทสนทนาของคุณกับคนรักในระยะต่างๆของความสัมพันธ์มาให้แล้วค่ะ ถ้าอยากให้ชีวิตคู่ยืนยาวและประสบความสำเร็จ ต้องดูเลย!!
1. ‘ถามตัวเองนิดนึงนะ’
เชื่อหรือไม่ว่าก่อนเราจะเริ่มมีความสัมพันธ์กับใครสักคนอยากจริงจัง เราต้องถามตัวเองเป็นอันดับแรกว่าคุณพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคู่หรือยัง คุณรู้สึกอย่างไรกับงาน, สังคม, และครอบครัวรอบตัวคุณ ทุกอย่างนี้ไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟค แต่อย่างน้อยคุณควรจะมีความสุขกับชีวิตคุณเองเสียก่อนที่จะเริ่มคบใครสักคนอย่างจริงจังนะ
2. ‘ตกลงเราเป็นอะไรกัน’
‘เจสัน’ และแฟนสาวของเขา ‘เมแกน’ เป็นเพื่อนคู่นอนมาตลอดสามปีก่อนที่เริ่มคบกันอย่างเป็นทางการ เจสันกล่าวว่าความสัมพันธ์ของเขากับเมแกนตอนนั้นยังไม่จริงจัง แต่เขาก็รู้นะว่าทั้งเขาและเมแกนมีความรักให้กันมาตลอด และแล้วเมแกนก็ส่งข้อความมาถึงเจสันว่า “เจอกันคืนนี้นะ…ที่รักของฉัน” เจสันรู้สึกโล่งอกและหัวเราะ “ผมบอกเลย ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง!”
3. ‘มีเงินพอหรือปล่าว’
คู่รักทะเลาะเรื่องอะไรกันมากที่สุดน่ะหรอ?? เงินไงล่ะ!! ในช่วงเดือนแรกที่คบหาดูใจกัน คุณควรจะรู้ถึงสภาวะการเงินของแฟนของคุณ คุณทั้งสองควรนั่งคุยกัน และแต่ละคนควรเขียนลงไปในกระดาษถึง รายได้ที่คุณได้ หนี้สิน คะแนนบัตรเครดิต เงินออม และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือมรดก! จากนั้นสลับกระดาษกันอ่าน ลองทำดูนะ แล้วการคุยเรื่องเงินต่อจากนั้น เช่น เรื่องค่าเทอมลูก การเปลี่ยนอาชีพ การปรับปรุงห้องครัวใหม่ จะง่ายขึ้นเลยล่ะ
4. ‘คุยเรื่องชีวิตเซ็กส์’
เจเนล 34 ปี สงสัยว่าชีวิตโสดของเธอตอนนั้นจะโชกโชนยิ่งกว่าของแฟนหนุ่มเธอหรือไม่?! เธอจึงบอกความจริงหมด และแฟนเธอก็ไม่ได้ตกใจกับอดีตของเธอ และจากการเปิดอกคุยตอนนั้นเองที่ทำให้พวกเขาคุยเรื่องชีวิตเซ็กส์ได้มาตลอด 8 ปี
ลองถามแฟนคุณเล่นๆดูเป็นครั้งคราวว่าเราจะลองจำลองฉากเซ็กส์จากหนังเรื่องโปรดของคุณได้มั๊ย แต่อย่าซีเรียสมากเกินไปเพราะจะทำให้เราดูเหมือนกดดันเขาเกินไปนะ!!
5. ‘คุยเรื่องย้ายมาอยู่ด้วยกัน’
การวิจัยได้เผยว่าคู่รักที่คุยกันเรื่องการย้ายมาอยู่ด้วยกันจะมีชิวิตสมรสที่ยืนยาวมากกว่าคู่รักที่อยู่ด้วยกันฉันรูมเมทหรือเพื่อนร่วมห้อง
เอริน วัย 34 ปีทันตแพทย์หญิงจากนิวยอร์ก กล่าวว่า เธอเคยเผลอชวนให้แฟนหนุ่มของเธอย้ายเข้ามาอยู่กับเธอ แต่แฟนหนุ่มของเธอถึงกับอึ้งและไปต่อไม่ถูกเลย เธอเลยต้องถอนคำพูดแต่หลังจากไม่กี่วันพวกเขาได้คุยกันถึงมันอีกครั้ง และตอนนี้พวกเขาก็ได้แต่งงานกันมาถึงสามปีแล้ว
6. ‘ลั่นระฆังวิวาห์’
คู่รักส่วนใหญ่ควรตกลงเรื่องการแต่งงานกันก่อน อย่างคู่ของเจสันและเมแกน คู่รักที่ตกลงอยู่ร่วมกันโดยไม่แต่งงาน สำหรับเมแกน เธอกล่าวว่าเทคนิคที่ดีสำหรับการคุยเรื่องนี้คือต้องคุยกันแบบเป็นกันเอง
เมื่อพวกเขาไปเที่ยวด้วยกัน เมแกนก็คุยกับแฟนของเธอว่า “เพื่อนๆพวกเราคิดว่าเราต้องจัดการหมั้นกันในทริปนี้แน่เลย” นี่เป็นคำถามเปิดประเด็นการคุยเรื่องการแต่งงานของคู่นี้ และอีกไม่กี่เดือนต่อมาพวกเขาก็ตัดสินใจแต่งงานกัน
8. ‘คุยเรื่องศาสนา’
เจไนน์และสามีในอนาคตของเธอได้คุยกันถึงประเด็นศาสนาในชีวิตคู่เมื่อเดทครั้งที่สองของพวกเขา (ไม่เร็วไปหรอกนะ) เจไนน์บอกว่าแฟนของเธอเป็นคนยิวและอยากให้ลูกของพวกเขาเติบโตมาในศาสนานั้น เจไนน์ซึ่งนับถือศาสนาคริสเตียนคาทอลิค ตกลงอย่างโดยดีแต่ได้บอกแฟนของเธอว่า ‘ฉันจะไม่เปลี่ยนศาสนาตามเธอโดยเด็ดขาด’
9. ‘คุยเรื่องมีลูก’
สำหรับคู่รักหลายคู่ การตัดสินใจเป็นพ่อแม่ใช้เวลาหลายครั้งสำหรับการตกลง คุณอาจเริ่มต้นด้วยคำถามเช่น ‘คุณชอบมั๊ยที่คุณมาจากครอบครัวใหญ่’ ในเดทครั้งแรก ก่อนที่คุณจะจริงจังกับเรื่องนี้คุณควรถามแฟนคุณตรงๆว่า ถ้าเราสองคนไปกันได้ด้วยดี เราควรจะมีลูกกันดีมั๊ย ลองคุยกันถึงว่าอยากได้กี่คนและถึงเวลาที่พร้อมก็ดีนะ
9. ‘เคลียร์กันบ้าง’
คู่รักย่อมมีถกเถียงกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่การคุยครั้งนี้จะเกี่ยวกับว่าคุณจะถกเถียงกันอย่างไร อาจจะถึงขั้นจะตั้งกฎสำหรับเวลาที่ทุกอย่างเข้าขั้นเลวร้ายในความสัมพันธ์
มิเชลล์ 36 ปี และสามีของเธอมีกฏว่าพวกเขาจะไม่เข้านอนเวลาโกรธหรือโมโห แต่กฎนี้ก็ได้เล่นงานพวกเขาซะเอง เพราะพวกเขาจะรู้สึกเหนื่อยเพลียในตอนกลางคืน เพราะเมื่อพวกเขาพยายามที่จะคุยกันมันก็ทำให้กลายเป็นเรื่องน่าโมโหมากขึ้นไปอีก บางครั้งพวกเขาก็ต้องตัดสินใจหลับใส่ปัญหาดังกล่าวและมันก็จะถูกลืมไปเอง
10. ‘คุยเรื่องภาพรวม’
คุณมีความสุขมั๊ย? เค้ามีความสุขหรือยัง? เราสองคนไปกันได้มั๊ย? คุณคงคิดว่าคุณรู้ว่าแฟนคุณคิดอะไรอยู่ แต่เชื่อเถอะ!! ว่าแม้แต่หลังจากระยะเวลา 50 ปี ยังไงคุณก็ยังต้องถามเค้า!!
เวอร์จิเนีย วัย 69 ปีกล่าว เธอผ่านชิวิตสมรส 51 ปี มาด้วยเรื่องโชคและการสื่อสารระหว่างกัน เธอกล่าววว่าคู่รักควรตกลงถึงเรื่องอนาคตร่วมกัน หรือคุยกันว่าในแต่ละวันชีวิตเราผ่านไปอย่างไร แล้วถ้าคุณรู้สึกอึดอัดเมื่อไหร่ นั่นแหละคือสัญญาณที่สำคัญที่สุดที่คุณสองคนต้องคุยกัน
คิดว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับสาวๆหลายๆคนที่กำลังอยู่ในช่วงอินเลิฟอยู่เลยนะคะ ยังไงก็อย่าเพิ่งหลับหูหลับตารักกันจนอาจจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ในอนาคต เพราะถึงแม้ว่าการมองข้ามข้อเสียของแต่ละฝ่ายจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าทำแล้วรู้สึกฝืน รู้สึกว่าอึดอัดหรือไม่ชอบ การพูดคุยกันนี่แหล่ะค่ะ ตอบปัญหาให้คุณได้!!
แปลและเรียบเรียงโดย Mennhattan
ที่มา glamour