เรารักหน้ายังไงเราก็ก็ควรรักเท้าอย่างนั้น เราดูแลผิวหน้าอย่างไรก็ควรดูแลผิวเท้าเราอย่างนั้น บางคนบอกว่าผิวเท้าดีกว่าหนังหน้าอีกต่างหาก แต่บางคนใช้เท้าหนักมากส่วนสาเหตุของส้นเท้าแตกของสาวๆก็คือการสวมใส่รองเท้าเปิดส้น รองเท้าส้นสูง หรือรองเท้าที่ไม่มีคุณภาพ พื้นรองเท้าแข็งมากจนเกินไป เช่น รองเท้าแตะคีบ รองเท้าฟองน้ำ รองเท้าสาน ฯลฯ การสวมใส่รองเท้าขนาดที่ไม่พอดีกับเท้า เช่น ใส่คับหรือหลวมมากจนเกินไปเป็นเวลานาน ๆ จนทำให้เกิดบวมแดงหรืออักเสบ หากปล่อยให้นานไป ส้นเท้าจะเริ่มหนาแล้วก็แตกได้
ส่วนใหญ่มักพบกับคนที่มีน้ำหนักตัวมาก เพราะส้นเท้าต้องรับน้ำหนักขึ้นมีโอกาสแตกได้ง่าย และคนที่ชอบเดินด้วยเท้าเปล่าบนพื้นปูน พื้นดิน พื้นบ้าน หรือพื้นแข็ง ๆ โดยที่ไม่สวมรองเท้าเป็นสาเหตุของการเกิดส้นเท้าแตกได้ การยืนหรือเดินเป็นเวลานาน ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายเป็นประจำ ส้นเท้าจะเกิดการกระแทกหลายครั้ง เช่น นักวิ่ง นักเต้นรำ เป็นต้น
บางคนจะส้นเท้าแตกเวลาหน้าหนาวจนเจ็บเวลาเดินหรือมีเลือดซึมๆ ออกมาด้วยก็มี ส้นเท้าแตกไม่สามารถห่มผ้าที่ใยจะเกิดการเสียดสีกับผ้าทำให้แสบได้ สาวๆอาจเกิดความรำคาญใจที่ส้นเท้าแตก อยากให้ส้นเท้าที่เนียนนุ่มเหมือนผิวหน้า เกิดจากผิวแห้งผิวหนังกำพร้าชั้นขี้ไคลของฝ่าเท้าจะหนาและสูญเสียน้ำจากผิวมากกว่าปกติ ทำให้ผิวไม่สามารถเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ได้ และขาดความชุ่มชื้น เราก็มีวิธีการดูแลเท้าของสาวๆมาฝาก
น้ำอุ่นและหินขัดเท้าหรือที่ขัดเท้า แช่เท้าในน้ำอุ่นทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ใช้หินสำหรับขัดเท้านำมาขัดถูเบาๆ บริเวณรอยแตก เพื่อช่วยขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดออกไป ทำให้ผิวหนังบริเวณส้นเท้านุ่มและเนียนมากขึ้น เสร็จแล้วควรทาด้วยครีมบำรุง แนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง อย่างต่อเนื่องประมาณ 1 เดือนก็จะเห็นผลที่ดีขึ้น
น้ำสบู่, น้ำมะนาวและวาสลีน เรียกว่าสูตรเด็ดเลยใช้น้ำอุ่นเพื่อความสบายของเท้าและให้ใส่สบู่เหลวลงไปด้วยตีจนขึ้นฟอง จากนั้นแช่เท้าในน้ำสบู่ประมาณ 15 นาที ล้างเท้าให้สะอาด ใช้วาสลีน 1 ช้อนชาผสมกับน้ำมะนาว 1 ลูก นำมาถูส้นเท้าแตกถูวนไปเรื่อยจนส่วนผสมซึมเข้าสู่ผิวหนัง แนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
น้ำมันมะกอก/น้ำมันงากับน้ำยาบ้วนปาก สูตรนี้เป็นการนวดน้ำมันลงบนส้นเท้าเพื่อช่วยสมานผิวรอยแตกให้หายและทำให้ส้นเท้าเนียนนุ่มมากขึ้น แช่เท้าด้วยน้ำอุ่น 15 นาที ให้ใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันงาประมาณ 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำยาบ้วนปากมานวดเท้าและล้างออก หรือจะใช้เจลว่านหางจรเข้ทาก่อนนอนและสวมถุงเท้า ทำสัปดาห์ละประมาณ 2-3 ครั้ง ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
น้ำอุ่น , เบกกิ้งโซดาและน้ำตาลทรายแดงสูตรนี้น่าสนใจ ส่วนใหญ่จะใช้น้ำอุ่นเพื่อความสบายเท้าและเซลล์ผิวหนังเท้าจะได้หลุดออกมา ถ้าไปทำสปาเท้าจะหยดน้ำมันหอมระเหยลงไปสัก 1-2 หยด แล้วนำเท้าลงไปแช่ 15 นาที จากนั้นนำเบกกิ้งโซดา 3 ส่วน น้ำเปล่า 1 ส่วน กับน้ำตาลทรายแดง 1 ส่วน ผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาสครับให้ทั่วเท้าประมาณ 10-15 นาที ล้างออกเช็ดเท้าให้แห้งแล้วตามด้วยการทาครีมบำรุง
เป็นผู้หญิงต้องดูแลตั้งแต่หัวจรดปลายเท้ากันเลย ดูแลตัวเองให้สวยเพื่อความมั่นใจของสาวๆค่ะ