รีวิว 6 คลินิก เสริมจมูกที่ไหนดี ทั้งถูกและดีที่สุด ประจำปี 2020

เสริมจมูกที่ไหนดี ราคาไม่แพง สำหรับคุณสาว ๆ ที่อยากทำจมูก แต่งบน้อย ถ้าอยากรู้ว่าทำจมูกที่ไหนดีถึงจะได้ทรงสวย วันนี้เรามีคลินิกเสริมจมูกยอดฮิต ถูกและดีมาแนะนำกันแล้วค่ะ
 

          ศัลยกรรมจมูก ถือเป็นศัลยกรรมยอดฮิตของสาวไทยที่มักจะเลือกทำเป็นอันดับต้น ๆ ทำให้ทุกวันนี้มีคลินิกเสริมความงามเกิดขึ้นมากมาย แต่ก็อย่างที่รู้ ๆ กันว่าการทำศัลยกรรมจมูกนั้นค่าใช้จ่ายค่อนข้างที่จะแพง บางที่ราคาสูงไปถึง 4-5 หมื่น หรือหลักแสนกันเลยก็มี ทำให้คุณสาว ๆ ที่อยากจะทำจมูกแต่มีงบน้อยได้แต่มองตาปริบ ๆ
 

          แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ต้องน้อยใจไปค่ะ เพราะใช่ว่าสถานที่ทำจมูกที่มีราคาถูกและงานดีนั้นจะไม่มีเลย เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหาสถานที่ เสริมจมูกที่ไหนดี ราคาไม่แพง เพื่อช่วยชี้เป้าให้คุณสาว ๆ สามารถเลือกทำจมูกได้อย่างถูกใจและไม่ลำบากเงินในกระเป๋า วันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวม คลินิกเสริมจมูกยอดฮิต ราคาถูก และงานดีมาแนะนำกันแล้วค่ะ จะมีที่ไหนบ้าง ลองไปเลือกไปดูรีวิวเสริมจมูกเพื่อประกอบการตัดสินใจกันเลย…

1. โรงพยาบาลเลอลักษณ์

          โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่ง หนึ่งในสถานที่เสริมจมูกยอดนิยม ทีมแพทย์มีความเป็นมืออาชีพ สาว ๆ สามารถมั่นใจได้ ซึ่งราคาเสริมจมูกก็เริ่มต้นเพียงแค่ 6,900-14,900 บาทเท่านั้น โดยคุณหมอจะใช้ซิลิโคนมาตรฐานที่นำเข้าจากอเมริกา เหลาแบบเคสต่อเคส และจะเลือกทรงให้เข้ากับรูปหน้าคนไข้มากที่สุด แถมยังมีรับประกันหลังทำให้ 180 วันอีกด้วย

2. Aya Clinic

          ที่นี่ราคาเสริมจมูกเริ่มต้นอยู่ที่ 6,900-14,999 บาทค่ะ ดูแลโดยคุณหมอที่มีประสบการณ์ ไม่ว่าคุณสาว ๆ อยากจะได้จมูกแบบไหน คุณหมอก็จะออกแบบและเหลาซิลิโคนให้ใหม่แบบเคสต่อเคสจนคนไข้พอใจ ซึ่งทำออกมาแล้วยังดูเป็นธรรมชาติสุด ๆ รับรองว่างานสวยถูกใจแน่นอน

3. Ess Clinicfacebook

          เป็นคลินิกที่ดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ราคาทำจมูกหากทำโดยทีมแพทย์เริ่มต้นที่ 5,900-24,999 บาท หากทำกับหมอเอส ราคาเริ่มต้นที่ 6,999-16,999 บาท แล้วแต่เทคนิควิธีการเสริมและพื้นฐานทรงจมูกเดิม หากเป็นคนที่มีทรงจมูกดีแล้วเสริมแต่งนิดหน่อยก็สวยได้ในราคาสบายกระเป๋า แต่ถ้าใครที่มีเนื้อจมูกน้อยต้องมีปรับแก้เยอะ ก็อาจมีราคาที่ต่างกันออกไปแล้วแต่เคสค่ะ

4. บุญรัตน์คลินิกการแพทย์ (หมอบุญถิ่น)

          เชื่อว่าที่นี่คงไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอน เพราะคุณหมอทำจมูกได้ทรงสวยและเป็นธรรมชาติ ซึ่งราคาเสริมจมูกปัจจุบันอยู่ที่ 5,000 บาท โดยคุณหมอจะเลือกทำจมูกให้เข้ากับรูปหน้าของคนไข้มากที่สุด ซึ่งถ้าใครอยากจะมาทำที่นี่แล้วละก็ คงต้องรอคิวนานกันหน่อยนะคะ เพราะคุณหมอคิวยาวมาก ๆ เลยล่ะค่ะ

จากรีวิว ผู้รับบริการจริง

เราอายุ20ปีค่ะอยากเสริมจมูกมานานมากประจวบเหมาะกับเรากำลังจะจัดฟันเสร็จพอดีเราเลยเริ่มตั้งใจหาข้อมูลอยู่ประมาณ3เดือนเต็ม ทำความเข้าใจหลายๆอย่างดูรีวิวมาเยอะคลินิกไหนที่ดังๆเราเข้าไปชมไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ แฟนเพจ และรีวิวของคลินิกค่ะมีลองคุยกับเพื่อนปรึกษาเพื่อนบ้างค่ะจนเพื่อนเราแนะนำที่บุญรัตน์ค่ะเพราะเพื่อนเราทำมาก่อนหน้าที่เราจะทำ3ปีค่ะไม่มีปัญหาทะลุหรือเบี้ยวเลยโด่งสวยมากๆ 31/01/63 เราเลยตัดสินใจไปปรึกษาคุณหมอค่ะคลินิกตั้งอยู่ตรงข้ามห้างตั้งฮั่วเส็งบางลำภูนะคะ ไปถึงคลินิกเขาก็ให้ทำประวัติและนั่งรอคุณหมอลงมาค่ะพอคุณหมอลงมาก็เรียกเราเข้าห้องตรวจค่ะ หมอก็จับๆจมูกเราแล้วบอกว่ากระดูกด้านข้างจมูกเราไม่เท่ากันนะทำออกมาอาจจะเบี้ยวเราก็จิตตกเลยค่ะใจนึงก็อยากทำใจนึงก็กลัวเบี้ยวแล้วต้องแก้ใหม่ หมอจึงให้เราออกมานั่งคิดค่ะสักพักเราก็แจ้งพยาบาลว่าทำค่ะ แล้วก็นั่งรอหมอประมาณ10นาทีก็ถึงคิวเราค่ะพยาบาลเรียกชื่อเราและพาเราไปที่ชั้นสองเพื่อทำการคลีนหน้าและจมูกค่ะเมื่อคลีนหน้าเสร็จก็ไปที่ชั้น4ค่ะเพื่อไปที่เตียง เอาหละ…..ได้เวลาขึ้นเขียงแล้วค่ะทุกโคนน เราก็ขึ้นไปนอนค่ะพยาบาลทำการล้อคแขนเราไว้กับด้านข้างเตียง (ป้องกันคนไข้เอามือมาจับจมูก) จากนั้นก็จะทำการฉีดยาชาค่ะรอยาชาออกฤธิ์หมอก็จะทำการเหลาซิลิโคนและผ่าตัดเย็บแผลตามลำดับค่ะ ปัจจุบันค่ะ 29/2/63เราทำมาบวมและช้ำน้อยมากค่ะหมอไม่ให้ประคบนะคะแล้วก็ไม่ต้องทานพวกใบบัวบกด้วยค่ะ3วันแรกเราทานน้ำมะพร้าววันละ2ขวดเองค่ะเดี๋ยวมันจะเริ่มยุบและช้ำเองของเรา10วันก็หายบวมช้ำแล้วค่ะ รวมค่าเสียหายนะคะ5000บาทรวมค่ายาและตัดไหมค่ะ


 5. M Med Clinic

          สำหรับที่นี่มีซิลิโคนให้คุณสาว ๆ ได้เลือกทำมากมายหลายเกรดเลยค่ะ แต่ถ้าอยากจะเซฟเงินในกระเป๋าก็ต้องนี่เลย เลือกเสริมจมูกซิลิโคนแบบ USA Standard ในราคา 5,900 บาท (บวกค่ายาอีก 1,000 บาท) และเสริมจมูกซิลิโคนแบบ USA Premium ในราคา 7,900 บาท (บวกค่ายาอีก 1,000 บาท) ซึ่งทั้งสองราคานี้เป็นซิลิโคนที่มีคุณภาพทั้งคู่ และไม่ว่าคุณสาว ๆ จะเลือกซิลิโคนแบบไหนคุณหมอก็จะออกแบบให้เข้ากับโครงจมูกมากที่สุด รับรองว่างานที่ออกมาจะสวย โด่ง พุ่ง ประทับใจแน่นอนค่ะ

6. SoWon Clinic

          คุณสาว ๆ คนไหนที่อยากจะได้จมูกทรงสวยแบบสาวเกาหลี แนะนำที่นี่เลยค่ะ มีรีวิวให้ดูเยอะก่อนตัดสินใจ โดยราคาเสริมจมูกเริ่มต้นที่ 6,999-16,999 บาท (แล้วแต่ลูกค้าจะเลือกซิลิโคน) ซึ่งราคานี้รวมทั้งหมดแล้วทั้งค่ายา ค่าตะไบฮัมพ์ ปรับฐานจมูก และตัดไหม อีกทั้งยังรับประกันนานถึง 6 เดือนไม่มีบวกเพิ่มอีกด้วย บอกเลยได้ทั้งจมูกสวย ๆ แถมราคายังไม่แพงสบายกระเป๋า

      

ทางคลินิกมีการใช้เทคนิคเสริมจมูกแบบปิด โดยการเสริมรูปแบบนี้ เป็นการเสริมจมูกในรูปแบบที่มีแผลจากรอยกรีด แพทย์ทำความสะอาดบริเวณโพรงจมูก รอบจมูกๆและบริเวณที่จะทำการผ่าตัด หรือรอยผ่าตัดในรูจมูก  ซึ่งจะเป็นแผลเพียงด้านเดียว หรือสองด้านนั้นก็ได้ แล้วแต่หมอที่ได้ทำการศัลยกรรมแล้วแต่ความถนัดของแพทย์   หมอจะฉีดยาชาผิวหนังบริเวณที่จะทำการเสริมจมูก จากนั้นค่อยๆทำการเลาะไปในโพรงจมูก แล้ววางซิลิโคน ลงไป จากนั้นคุณหมอจะเย็บปิดแผลด้านในโพรงจมูก การเสริมจมูกรูปแบบนี้จะไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับรูปร่าง หรือโครงสร้างของโพรงจมูกสักเท่าไหร่เลยมากนัก หลังจากห้องผ่าตัดเจ้าหน้าที่จะทำการบล็อกเฝือกอ่อน เพื่อป้องกันการเคลื่อนของจมูก ป้องกันการเบี้ยวเอียงของสัน การผ่าตัดแบบ Closed เหมาะสำหรับคนที่มีรูปทรงจมูกที่ค่อนข้างดีในระดับหนึ่ง ไม่มีปัญหาเรื่องโครงสร้างจมูก

ข้อดี

  1. ราคาไม่แพง
  2. ไม่มีแผลเป็นด้านนอก    การฟื้นตัวก็จะเร็วกว่าการผ่าตัดแบบ open
  3. แพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะจุดที่ทำการผ่าตัด โดยไม่ต้องวางยาสลบ
  4. เมื่อเกิดปัญหาแพทย์สามารถแก้ไขได้ง่ายกว่าการผ่าตัดแบบ open
  5. ผลการผ่าตัดออกมาสวย

ข้อเสีย

  1. มีโอกาสซิลิโคนทะลุ หากเสริมซิลิโคนที่โด่งเกินไป
  2. หากรูปทรงจมูกเป็นทรงชมพู่ไม่สามารถแก้ไขได้

การเสริมจมูก ด้วยเทคนิคการผ่าตัดแบบเปิด เป็นการผ่าตัดแบบเปิดจมูกด้านหน้า เปิดแผลจากด้านหน้าทำให้มีแผลเป็น กรณีเสริมจมูกแบบ  open  เป็นการผ่าตัด คนไข้จะต้องงดน้ำ งดอาหารมาอย่างน้อย 1 วันเพื่อตรวจเลือด และ X-ray ดูความพร้อมของปอดคนไข้ เพื่อดูความพร้อมของปอดในการวางยาสลบ คุณหมอจะใช้ยาสลบก่อนการผ่าตัดและหลังผ่าตัดจะต้องพักฟื้นอย่างน้อย 1 คืน

ข้อดี

  1. คุณหมอจะเห็นโครงสร้างจมูกของคนไข้ได้อย่างชัดเจน และตรงจุดมากกว่าการการผ่าตัดแบบปิด และสามารถแก้ไขได้ตรงจุด

ข้อเสีย

  1. ราคาสูงกว่าการผ่าตัดแบบปิด
  2. ใช้เวลาในการผ่าตัดนานกว่าแบบปิด และเสียเลือดมากกว่า
  3. ความเสี่ยงมีค่อนข้างมาก ความผิดพลาดค่อนข้างเยอะกว่า
  4. หากมีปัญหาหลังทำ วิธีการแก้ไขจะยากกว่า
  5. มีแผลเป็นบริเวณด้านนอกจมูก
  6. การฟื้นตัวใช้เวลานานกว่า
  7. มีโอกาสซิลิโคนทะลุ หากเสริมซิลิโคนที่โด่งเกินไป

ปีกจมูกบานคงสร้างความไม่มั่นใจให้สาวๆหนุ่มๆหลายคนอยู่ไม่น้อย ความไม่สมส่วนระหว่างความกว้างตรงปลายจมูกกับความกว้างของหัวคิ้วนั้น สามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดปีกจมูกทำให้จมูกเล็กะเรียวลงได้

ขั้นตอนการตัดปีกจมูก

แพทย์จะฉีดยาให้คนไข้เพื่อขั้นตอนการผ่าจะไม่รู้สึกเจ็บขณะทำการผ่า เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้วจึงจะทำการผ่าตัด หลักการผ่าตัดโดยทั่วไปก็คือ จะตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินที่ปีกจมูกออก และจัดฐานปีกจมูกรวมทั้งกำหนดความกว้างของรูจมูกใหม่ ในกรณีที่ปีกจมูกไม่หนามาก

การผ่าตัดปีกจมูกมี 2 แบบ ดังนี้

การตัดปีกจมูกแบบแผลใน

การตัดปีกจมูกแบบแผลใน เป็นเทคนิคที่นิยมทำเป็นอย่างมาก โดยแพทย์จะฉีดยาชาบริเวณปีกจมูก รอยาชาออกฤทธิ์ 5 นาที แพทย์จะทำการผ่าตัด เพื่อตัดปีกจมูกให้ดูเล็กลง เน้นความเป็นธรรมชาติ รอยเย็บจะอยู่ด้านใน จะไม่ทำให้เกิดแผลเป็น หลังผ่าตัดจะทำให้ใบหน้ารวมดูสวยเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์จะออกมาได้ดีกว่าการผ่าตัดแผลนอก

การตัดปีกจมูกแบบแผลนอก

การตัดปีกจมูกแบบแผลนอก เทคนิคนี้สามารถใช้กับจมูกบางรูปทรง เช่น จมูกชมพู่ อาจจะเกิดแผลเป็นได้ เพราะผ่าตัดจากด้านนอก  วิธีนี้จะใช้ช่วยลดความกว้างของปีกจมูกในกรณีที่ปีกจมูกบานออกมาก

โดยในแต่ละเทคนิคของการตัดปีกจมูก แพทย์จะพิจารณาจากรูปทรงของคนไข้ด้วย

1. ทรงสโลป ปลายพุ่ง  ทรงสโลป ปลายพุ่ง ทรงนี้สันจมูกจะไม่โด่งจนเกินไป และมีความยาวที่พอดี เป็นการเสริมจมูกให้ปลายพุ่งโด่งไปด้านหน้า ส่วนตรงสันจมูกจนถึงโคนจะทำให้เป็นสันคมโด่งเห็นได้ชัดหรือจะให้เป็นสโลปรับกับใบหน้าก็ได้

2.ทรงจมูกหยดน้ำ เป็นการทำให้ปลายจมูกยาวขึ้นเป็นรูปทรงหยดน้ำ ซึ่งจะต้องมองจากด้านข้างถึงจะเห็นทรงจมูกที่ชัดเจน ถ้าหากมองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นทรงจมูกปกติ ซึ่งทรงนี้สามารถทำร่วมกับเทคนิคปลายพุ่งได้ การทำให้มีหยดน้ำจะช่วยให้หน้าดูนิ่มนวล หน้าหวานขึ้น ไม่โฉบเฉี่ยวหน้าดูคมจนเกินไป

3.ทรงจมูกเป็นธรรมชาติ เสริมจมูกให้ดูโด่งเป็นธรรมชาติ คือการเสริมจมูกเพียงแค่ให้ดั้งจมูกมีสันเพิ่มมากยิ่งขึ้นและรับกับโครงหน้าเดิม ซึ่งทรงจมูกเป็นธรรมชาติ คุณหมอต้องดีไซน์จมูกให้เข้ากับโครงหน้าเฉพาะบุคคล ดังนั้นไม่ว่ารูปหน้ามาแบบไหนก็สามารถทำได้ทั้งหมด

ซิลิโคนที่ใช้

ได้รับรองมาตรฐานจาก อย. ยึดติดกับรูปทรงได้ทุกจมูก มีความนิ่ม เกาะติดอย่างดี  เป็นซิลิโคนมาตรฐานพิเศษมีความยืดหยุ่นสูง มีโอกาสทะลุได้น้อย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกช่วงอายุในการเสริมจมูกด้วยความนิ่มของซิลิโคน ทำให้สามารถบิดหรืองอจมูกได้ง่าย

ก่อนเสริมจมูก เตรียมตัวอย่างไรดี ?

  1. พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม
  2. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง
  3. เตรียมสิ่งของที่จำเป็น เช่น หมอนรองคอ  ทิชชูเปียก  สำสีพันก้าน น้ำเกลือ ทิชชู หน้ากากอนามัย เจลประกบ น้ำเกลือไว้เช็ดแผล
  4. งดสูบบุหรี่, งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 2 อาทิตย์ก่อนทำศัลยกรรม
  5. งดรับประทานอาหารแสลงจำพวกของดอง  เครื่องดื่มน้ำอัดลม อาหารทะเล
  6. งดรับประทานยาลดน้ำหนัก  งดวิตามิน  น้ำมันตับปลา  อาหารเสริมต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมของ วิตามิน A และ E  อาหารเสริมประเภทนี้ให้งด 2 อาทิตย์ก่อนผ่าตัด จะทำให้เกิดอาการเลือดหยุดไหลช้า การผ่าตัดเป็นไปค่อนข้างยาก และแผลหลังผ่าตัดเกิดการบวมมากกว่าปกติ
  7. งดยาแก้ปวด ลดกล้ามเนื้ออักเสบ ก่อนผ่าตัด 2 อาทิตย์ เช่น ยากลุ่มแอสไพริน หรือ ไอบิวโพรเฟน เพื่อลดอาการฟกช้ำจากเลือดคั่งหลังผ่าตัด  แต่กรณีที่จำเป็นต้องใช้  ใช้ยาพาราเซตามอลในการบรรเทาอาการปวดแทน

การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก

  1. ประคบด้วยเจลเย็น 4 จุด คือ
  • สันจมูกด้านข้างซ้ายและขวา
  • สันจมูกตะรางกลางด้านบนและระหว่างคิ้ว
  • โดยประคบเย็นด้วยน้ำแข็งที่เย็นจัดตำแหน่งละ 30 วินาที หรือว่ารู้สึกเย็นมากๆ จึงเปลี่ยนตำแหน่ง   ทำละ 4 รอบ ได้แก่ เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน เป็นเวลา 3 วัน จากนั้นจึงประคบอุ่น2. ห้ามนอนตะแคง ให้นอนหมอนล็อคคออย่างน้อย 1 เดือน เพื่อป้องกันซิลิโคนเบี้ยวเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง หากลืมเพียงคืนเดียวจมูกสามารถเอียงได้

3. ดูแลแผลบริเวณที่ผ่าตัดอย่างน้อยวันละ 4 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็นและก่อนนอน รวมถึงหลังล้างหน้า หลังอาบน้ำ หรือหลังประคบเย็น  และทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร โดยทำแผลด้วยน้ำเกลือ ที่สำคัญก่อนทำแผลควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง

4. ทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบถ้วนอย่างเคร่งครัด ประกอบด้วยยาฆ่าเชื้อวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น  และยาแก้ปวดครั้งละ 1 เม็ดหลังอาหาร หรือเมื่อมีอาการปวด ทานห่างกันอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง ทั้งนี้ควรทานยาให้ครบอย่างน้อย 7 วัน

5. งดรับประทานอาหารหมักดอง อาหารที่ไม่ปรุงสุก อาหารทะเล แอลกอฮอล์ อาหารเค็ม อาหารที่มีโซเดียมเยอะ เช่น มาม่า โจ๊กคัพตามร้านสะดวกซื้อ และงดสูบบุหรี่  ทั้งหมดนี้เป็นเวลา 1 เดือน ให้ทานอาหารประเภทอ่อนๆ  หากไม่ปฏิบัติตามข้อห้ามแผลอาจติดเชื้อได้

6.พลาสเตอร์ที่ติดจมูกป้องกันการเบี้ยวเอียงให้ติดไว้ 5 วัน จากนั้นให้ดึงออกจากบนลงล่าง อย่างช้าๆ

7. หากเกิดปัญหาติดต่อคลินิกที่ทำทันที

ทำไมต้องศัลยกรรมจมูกกับ SOWON CLINIC ?

Sowon  Clinic มีทีมแพทย์มากประสบการณ์ผ่าตัดไม่ต่ำกว่า 10,000 เคส  มีการดูแลหลังศัลยกรรมการผ่าอย่างใกล้ชิด มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ 24 ชั่วโมง ดูแลเสมือนคนในครอบครัว มีการรับประกันหลังทำถึง 6 เดือน ซิลิโคนที่ใช้เป็นซิลิโคนอเมริกาของแท้ ได้รับมาตรฐาน อย. ทีมแพทย์ Sowon Clinic จะเหลาซิลิโคนเคสต่อเคสให้เหมาะสำหรับรูปทรงจมูกของแต่ละคน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : http://bit.ly/30otQTa

Inbox FB. : http://bit.ly/2VnFCJS

Youtube : http://bit.ly/2HlHsae

Line Official : http://bit.ly/2w2xNPu (@sowonclinic)

Instagram : http://bit.ly/2LJoQ8v
Hotline : 097-207-3296 , 097-180-7020 ,
02-086-3558 , 02-082-3559

บทความรีวิว

ความประทับใจของคุณส้มโอ ที่มีต่อ SOWON CLINIC คืออะไรคะ ?

“ที่รู้สึกประทับใจคือ หลังทำแล้วไม่บวมไม่ช้ำเลย เพราะเราทำงานที่ต้องใช้หน้าตา จึงคำนึงถึงในส่วนของความบวมความช้ำ การพักฟื้น เพราะว่าถ้าเราใช้เวลาในการพักฟื้นให้หายเร็วเท่าไหร่ เราก็จะกลับมาทำงานได้ไวขึ้นเท่านั้น แต่ในเรื่องการบวมช้ำนี้ก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายเราด้วยนะคะ ซึ่งหลังจากที่ส้มโอทำจมูกไปแล้ว เพียงแค่ 10 วัน ส้มโอทำงานได้เลย (หัวเราะ) โดยใช้การแต่งหน้าช่วยเล็กน้อยค่ะ เพราะว่าไม่มีการบวมช้ำ ไม่เป็นอวตารเลย คุณหมอมือเบามาก (ยิ้ม)“

หลังจากทำจมูกที่ SOWON CLINIC ชีวิตของคุณส้มโอ เปลี่ยนไปยังไงบ้างคะ ?

ก่อนหน้านี้ที่ได้มาเช็คทรงจมูกครบ 3 เดือน และครบ 5 เดือน ก็รู้สึกว่าจมูกเข้ากับหน้าเรา โดนเพื่อนทัก ส่งรูป แคสติ้งงาน ไม่ว่าจะเป็นด้านซ้าย ด้านขวา หน้าตรง ก็ส่งงานผ่านง่าย ได้รับงานง่ายมากยิ่งขึ้น มีงานเข้ามาเยอะขึ้น และปัจจุบันก็ยังทำงานเป็น Pretty MC นางแบบค่ะ