ถ้าคุณไม่ใช่คอกาแฟ มันก็คงจะยากสักหน่อยที่จะเข้าไปคุยกับคอกาแฟที่กำลังถกเรื่องเครื่องดื่มของเขาอย่างขมักเขม้น บ้างก็จดโน้ตถึงกลิ่นผลไม้ หรือกลิ่นไหม้ แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาพวกเขาได้หันเหความสนใจมาที่เครื่องดื่มชนิดใหม่นั่นก็คือคือ “เบียร์กาแฟ”
ใช่!! มันยากที่จะบอกว่ามันดีหรือด้อยกว่า แต่คอเครื่องดื่มทั้งสองก็ต่างมีชื่อในความเชี่ยวชาญกันพอตัวเลยทีเดียว นี่เป็นปรากฎการณ์ใหม่ของการพัฒนาทางด้านอาหารของชาวอเมริกันที่ผู้บริโภคมาหาซื้อของที่ตลาดนัดเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ กาแฟ หรือผักที่ปลูกโดยคนท้องถิ่น ความสัมพันธ์ของกลุ่มย่อยของชาวนาผู้ผลิตอาหารกำลังพัฒนาขึ้น แต่สินค้าพิเศษกำลังกำลังพยายามชิงตลาดกันอยู่
วัฒนธรรมของคราฟท์เบียและกาแฟมันต่างก็มีลักษณะพิเศษที่ไม่มีใครเหมือนและในการผลิตแต่ละครั้งมันเหมือนการทดลองและการที่เรามีความรู้เกี่ยวกับกาแฟทำให้เราได้รับอะไรที่มากกว่าประสบการณ์ใหม่
การรวมตัวกันของกาแฟกับเบียร์เป็นผลมาจากการพัฒนารสชาติใหม่ นี่ยังไม่รวมถึงการผสมผสานรสชาติต่างๆกันนะ ปรากฏการณ์นี้มันเหมือนกับการทำเบียร์ให้มีรสเหมือนกาแฟมากกว่า และมันก็ทำให้บริษัทค้ากาแฟรายใหญ่เริ่มการผลิตเบียร์ไร้แอลกอฮอล์รสลาเต้ขึ้น
ลาเต้ในถังดำ ที่สตาร์บัคส์ผลิตขึ้นมาโดยได้แรงบัลดาลใจจากการทำคราฟท์เบียร์ โดยใช้เอสเพรสโซ่ ดาร์คคาลาเมล และชอกโกแลต ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการชิมในฟรอริด้าและโอไฮโอ้ (รสแฟรปปูชิโนก็มีนะ)
เบียร์กาแฟมีประวัติไม่ยาวนาน ในผับหลายแห่งทั่วโลกเสิร์ฟเครืองดื่มที่ชื่อว่า “ดูเฟรน” หรือ “มัดดี้ดับลิน” ซึ่งเป็นการผสมของเบียร์กินเนส(Guinness) เข้ากับกาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต
ตั้งแต่ 1990 โรงเบียร์ได้เริ่มผสมกาแฟเข้ากับเบียร์ และปี 2004 ได้มีการแข่งขันเบียร์รสกาแฟด้วย และกาแฟเบียร์ก็เริ่มพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ทั้งบริษัทเบียร์และกาแฟต่างร่วมมือกันสร้างสรรค์สูตรเบียร์กาแฟใหม่ๆเพื่อเอาใจลูกค้า
โลกของเรานี่หมุนเร็วเหมือนกันแฮะ! มันมักจะมีอะไรที่แปลกใหม่มาให้เราลองเรื่อยๆคอเบียร์และคอกาแฟมักจะทดลองอะไรที่แตกต่างจากของที่พวกเขาเคยดื่มกันหรือพวกเขาชอบลองของใหม่นั่นเอง ส่วนพวกเราก็คงได้แต่นั่งรอชิมผลงานการสร้างสรรค์ของพวกเขานั่นแหละเนาะ!
แปลและเรียบเรียงโดย The Canary Bird
ที่มา bostonglobe
