4 ขั้นตอนการเลือกซื้อเนื้อวัวที่สายลงครัวทุกคนควรรู้!

สำหรับคนทั่วไปอย่างเรา แน่นอนว่าการเลือกซื้อเนื้อวัวคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายซักเท่าไหร่ เพราะไม่ว่าเราจะกวาดตามองเนื้อที่วางอยู่บนแผงในตลาดนานสักแค่ไหน เราก็มักจะเห็นว่าเนื้อแต่ละชิ้นต่างก็มีสีที่ใกล้เคียงกันจนยากจะแยกออกว่าจริงๆ แล้วเนื้อชิ้นไหนอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดกันแน่ และเพื่อเป็นการบอกต่อทุกคนข้อมูลสำคัญที่จะทำให้ทุกการเลือกซื้อเนื้อวัวของคุณเป็นเรื่องง่ายและสนุกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม วันนี้เราจึงอยากจะมาบอกต่อ 4 เคล็ดไม่ลับในการดูเนื้อวัวมาให้ทุกคนได้ลองไปอ่านเพิ่มเติมกัน ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะเป็นยังไง ถ้าพร้อมแล้วตามไปดูกันเลย

สังเกตความสดของเนื้อจากสี

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าปกติแล้วเนื้อวัวหนุ่มมักจะให้รสสัมผัสที่ไม่เหนียวจนเกินไปเหมือนกับเนื้อวัวแก่ โดยเราสามารถสังเกตว่าเนื้อชิ้นไหนเป็นเนื้อวัวหนุ่มหรือแก่ได้จากสีของเนื้อ ยิ่งเนื้อชิ้นไหนมีสีแดงสดมากเท่าไหร่ และมีมันสีขาวแทรกอยู่นั่นหมายความว่าเนื้อชิ้นนั้นเป็นเนื้อจากวัวหนุ่ม แต่ในทางกลับกันหากเนื้อที่เรากำลังเลือกดูอยู่มีสีเขียวคล้ำหรือสีเหลือง ทางที่ดีเราอยากจะให้ทุกคนเลี่ยงเนื้อชิ้นดังกล่าวเอาไว้ เพราะทั้งหมดนี้เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่าเนื้อชิ้นดังกล่าวอยู่ในสภาพที่ใกล้สูญเสียความสดใหม่แล้ว

ตรวจสอบว่าเนื้อเสียหรือไม่จากสีของน้ำ

นอกจากการสังเกตสีของเนื้อ อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญของการเลือกซื้อเนื้อวัวก็คือการตรวจสอบว่าเนื้อหมดอายุหรือไม่ โดยวิธีดูนั้นไม่ยากเลยเพียงแค่เราสังเกตน้ำที่ซึมออกมาจากตัวเนื้อ ถ้าหากเป็นสีแดงนั่นแสดงว่าเนื้อชิ้นนั้นยังคงสดอยู่ แต่หากเป็นสีเหลือง นั่นแสดงว่าเนื้อบูดหรือเสียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เช็กพยาธิจากพื้นผิวของเนื้อ

ขั้นตอนการเลือกซื้อเนื้อวัวลำดับต่อมาเราอยากจะบอกต่อวิธีเช็กพยาธิในเนื้อกันบ้าง โดยหลักสำคัญก็คือให้เราดูว่าในเนื้อมีเมล็ดเล็กๆ ขนาดเท่ากับเมล็ดสาคูแทรกอยู่หรือไม่ หากใช่ ให้เราเลี่ยงการซื้อเนื้อดังกล่าวทุกประการ เพราะเมล็ดเล็กๆ เหล่านี้คือไข่ของพยาธิตัวตืดที่เป็นอันตรายต่อร่างกายหากเผลอรับประทานเข้าไป

เนื้อแต่ละประเภทเหมาะกับการนำไปปรุงให้สุกด้วยวิธีที่แตกต่างกัน

สเต็ปสุดท้ายของการเลือกซื้อเนื้อวัวในวันนี้ เราอยากจะบอกต่อรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อวัวแต่ละส่วนมาให้ทุกคนได้ลองไปอ่านกันคร่าวๆ โดยรายละเอียดสำคัญที่เราควรจะใส่ใจก็คือ เนื้อวัวแต่ส่วนนั้นเหมาะกับการนำไปปรุงให้สุกด้วยวิธีที่แตกต่างกันออกไป โดยสันคอจะเหมาะกับการนำไปอบและตุ๋น, เนื้อสันเหมาะกับการนำไปย่าง และเนื้อสะโพกเหมาะกับการนำไปบดเป็นเนื้อเบอร์เกอร์และไส้กรอก เป็นต้น